คลายล็อกดาวน์ 1 ก.ย. นายกฯ สั่งคุมเข้มโควิด รถโดยสาร-อากาศยาน

30 ส.ค. 2564 | 02:25 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ส.ค. 2564 | 15:57 น.

คลายล็อกดาวน์ 1 ก.ย. นายกฯ กำชับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เปิดบริการรถโดยสาร-อากาศยาน ต้องเข้มงวดภายใต้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19

จากมติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมาได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคบางส่วน รวมถึงการอนุญาตให้ขนส่งสาธารณะข้ามจังหวัดโดยเฉพาะการการเดินทางเข้า-ออกจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) ให้สามารถดำเนินการโดยกำหนดจำนวนผู้โดยสารไม่เกิน 75% ของผู้โดยสารของพาหนะแต่ละประเภทมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2564 เป็นต้นไปนั้น

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามกำกับดูแลการกลับมาเปิดให้บริการทั้งในส่วนของรถโดยสารสาธารณะ และรถตู้สาธารณะ

รวมถึงอากาศยานให้ดำเนินตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคที่ยังต้องเข้มงวด และต้องเป็นไปตามแนวปฏิบัติในข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 32 ซึ่งลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2564

ในส่วนของประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเป็นต้องเดินทางข้ามจังหวัดในช่วงเวลานี้ ขอความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด ตามแนวทางการป้องกันโรคในทุกกรณีทุกโอกาส หรือ Universal Prevention

พร้อมกันนี้ขอให้ติดตามข้อมูลก่อนการเดินทางว่าจังหวัดปลายทางที่จะเดินทางไปนั้นมีมาตรการป้องกันโรคอย่างไร ผู้เดินทางจากพื้นที่ต่าง ๆ จะต้องปฏิบัติตนอย่างไร เนื่องจาก ศบค. ผ่อนคลายให้เกิดการเดินทางได้มากขึ้น แต่ทุกจังหวัดก็ยังมีมาตรการเฉพาะพื้นที่ 

ส่วนประชาชนซึ่งเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องการเดินทางกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนา ยังขอให้เป็นการเดินทางตามระบบในโครงการรับคนกลับบ้าน/รับผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา โดยประสานงานผ่านสายด่วน สปสช. 1330 กด 15 และไม่เดินทางกลับเองเพื่อการส่งตัวปลอดภัยทั้งต่อผู้ป่วยและประชาชนทั่วไป

ศบค.เริ่มผ่อนคลายให้ระบบขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงเข้มเริ่มกลับมาให้บริการได้ ท่านนายกรัฐมนตรียังได้กำชับและมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข

รวมถึงหน่วยงานในพื้นที่ให้ร่วมกันติดตามดูแลการให้ดำเนินมาตรการต่างๆของผู้ให้บริการ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับทั้งประชาชนและพนักงานผู้ให้บริการ และหากดำเนินการไปได้ราบรื่นก็จะนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นในระยะต่อไปได้ นางสาวไตรศุลี รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ