สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายในเร็ววัน ขณะที่โรงพยาบาลไม่สามารถรองรับผู้ป่วยจำนวนมหาศาลได้ โรงพยาบาลสนามจึงเป็นทางออกสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อที่จำเป็นต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาผู้ป่วยมักประสบปัญหา ติดต่อหาเตียงในการรักษาตัวไม่ได้ ในขณะที่โรงพยาบาลสนามหลายแห่งมีภาพลักษณ์ไม่ค่อยดีในเรื่องของความสอาดและความปลอดภัย
ผู้ใช้ทวิตเตอร์ yourjellomark (slow) ได้ทวิตข้อความแชร์ปสก.เกี่ยวกับการหาเตียงผู้ป่วย Covid -19 ในกรุงเทพและปริมณฑล สำหรับผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี พร้อมรีวิวโรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจ แถวบางนา-ตราด
โดยระบุว่าส่วนตัวค่อนข้างประทับใจเลยจะมารีวิว เพราะเห็นยังไม่มีคนมารีวิวที่นี่
1. เป็นโควิดแล้วจะต้องทำอะไรบ้าง (เท่าที่รู้)
- อย่างแรกที่ตัองมีคือ “สติ”
- หลังจากรู้ตัวว่าติดแล้วให้แยกตัวเองออกจากคนในครอบครัวก่อนเลยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
- สำรวจอาการตัวเองหรือของญาติเราที่เป็นว่าเขาเป็นหนักมั้ย ต้องรีบรักษาด่วนแค่ไหน พอจะ Home isolation ได้มั้ย
ลองทบทวนดูว่าเราพอจะใช้สิทธิ์รักษาอะไรได้บ้าง เช่น ประกันโควิด ประกันชีวิต ประกันสังคม แล้วลองติดต่อรพ.หรือประกันดูก่อน (ส่วนตัวจากปสก คือถ้ามีประกันหรือประกันสังคมจะหาเตียงและได้รับการรักษาได้เร็วกว่ามากๆ)
2. สิ่งที่ต้องใช้ในการหาเตียงคนไข้
- ผลตรวจโควิดแบบ RT-PCR ส่วนใหญ่เกือบทุกที่จะขอผล rt-pcr มากกว่า ATK อย่างที่โรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจคือ ใช้ผลจาก rt-pcr เลย เราเคยส่งแบบ ATK ไปเขาก็จะส่งข้อความกลับมาให้ไปตรวจแบบ rt-pcr ที่รพในเครือเพื่อยืนยันผลอีกครั้ง
3. วิธีเข้ารับการรักษาที่นี่
3.1 ต้องมีผลตรวจโควิดวิธี rt-pcr
3.2 เข้าไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ กรอกข้อมูลและรายละเอียดให้ครบถ้วน
3.3 รอ SMS เพื่อยืนยันว่าจะได้เข้าไปรับการรักษาวันไหน กี่โมง(ของเราคือได้ SMS เร็วมาก ลงเมื่อวานวันต่อมาได้การยืนยันแล้ว)
4. รีวิวโรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจ (จากที่ตากับยายเล่า)
4.1 ความสะอาด : 8/10 ที่พักค่อนข้างสะอาดมากๆๆ มีแสงสว่างเพียงพอ และอากาศถ่ายเทดี ไม่หนาวและร้อนเกิน ระยะห่างแต่ละเตียงโอเค ไม่ได้เตียงชิดติดกันจนรู้สึกแน่นจนอึดอัด
4.2 อาหารการกิน : 9/10 จากที่ฟังยายกับตาเล่ามาคืออาหารที่นี่ดีมาก มีอาหารทะเล มีกุ้งมีหมูแบบดีๆ มีวันนึงได้บะหมี่หยกเป็ด (น่าจะจากเจ้านั้นแหละที่ดังๆ เห็นนางเป็นสปอร์นเซอร์อยู่) เขาแบบแฮปปี้กับอาหารมาก อาหารดีกว่าโฮลพิเทลที่แม่เราไปอยู่อีก
4.3 สภาพสังคม : ขอไม่ให้คะแนนเพราะคิดว่าแล้วแต่ดวง แต่ตากับยายเราค่อนข้างเจอคนที่ดี ช่วยเหลือกันตลอดการรักษาตัวที่นี่
4.4 พนักงานบริการ : 10/10 !!! พนักงานทุกคนดีมากพูดจาดีมาก ตั้งแต่ยาม คนดูแล คอลเซ็นเตอร์ ยันแม่บ้าน คนรับฝากของ คือพูดจาดีมากจริงๆ โคตรประทับใจ
4.5 การรักษา : ให้ 9/10 พอเข้าไปในรพสนาม จะมีให้แอดไลน์ แล้วหมอกับพยาบาลจะโทรมาสอบถามอาการตลอด ทุกวัน คากับยายเราค่อนข้างประทับใจเพราะหมอพยาบาลพูดจาดี ดูแลดี follow อาการเป็นรายวันตลอด เรื่อยๆตลอดการรักษา
4.6 ข้อเสียบ้าง
- ห้องน้ำไกล : อันนี้น่าจะแล้วแต่ตึกด้วย ห้องน้ำจะอยู่ด้านนอกของบริเวณที่รักษา ต้องเดินออกจากอาคารไปไกลพอสมควร แต่ตลอดทางเดินคือมีไฟและแสงสว่างตลอด มีการทำความสะอาดห้องน้ำตลอดด้วย
- มีเวลาฝากของจำกัด : ให้ฝากของแค่ 11.00-13.00 เท่านั้น
ต่อข้อเสีย
- ใช้เทคโนโลยีค่อนข้างเยอะ อาจจะไม่เหมาะกับผู้สูงอายุที่ไม่มี smart phone ที่ฟังมาคือพอเข้าไปเขาจะให้แอดไลน์ เพื่อให้สามารถคุยกับหมอและพยาบาลได้ โดยทุกวันหมอก็จะโทรมาถามอาการ แล้วเราก็ต้องบอกค่าความดัน ค่าออกซิเจน กับเล่าอาการของเราไป ยายกับตาเราคือขอให้คนอื่นช่วยกดให้
- ให้ 7/10 กับทุกอย่าง ประทับใจที่สุดคือพนักงานทุกคน ทุกคนพูดจาน่ารักมากจริงๆๆๆ ดูแลดีมากที่สุด อาหารและความสะอาดสำหรับเราคือที่นี่ดีมากๆถ้าเทียบกับที่อื่น แต่ข้อเสียก็มีคือใช้เทคโนโลยีเยอะเกินอาจจะไม่เหมาะกับคนที่ทีข้อจำกัดด้านนี้
ส่วนตัวคิดว่าที่คนไม่ค่อยรู้จักที่นี่เพราะมันต้องลงทะเบียนเอง ติดต่อเอง และต้องกรอกเองอะไรเองหมด ไม่ได้ไปตรวจแล้วส่งผลรอยืนยันว่าได้เตียงเลย ซึ่งมันน่าจะเป็นข้อจำกัดของคนที่เขาไม่มีทรศ ไม่มีอินเตอร์เน็ตด้วย
ส่วนใครที่กำลังหาเตียงหรือหารีวิวของที่โรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจ เราคิดว่าก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่โอเคกว่าหลายๆที่ ทั้งสะอาด อาหารดี พนักงานดี มียามตลอดปลอดภัยในระดับนึงเลย
หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์กับคนที่กำลังหาเตียงรักษากันนะฮะ ต้องมีสติและให้กำลังใจกันมากๆ เราต้องรอด
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง โรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจ ถึงประเด็นการลงทะเบียนเข้ารับการรักษา พบว่า ที่ผ่านมาทางรพ.สนามแสงแห่งใจ ได้เปิดให้ลงทะเบียนผ่านอินเตอร์เน็ตเนื่องจากรพ.ไม่สามารถรับผู้ป่วยได้ทุกคนและยังเป็นการช่วยลดภาระงานบางส่วนของบุคลากรทางการแพทย์อีกด้วย
อย่างไรก็ตามปัจุบันสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ทางรพ.สามารถรองรับผู้ป่วยได้มากขึ้น รวมทั้งเปิดให้ลงทะเบียนผ่านทางคอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่วันที่ 30 สคนี้ เป็นต้นไป