วันนี้ (8 ก.ย. 2564) เวลา 12.30 น. การแถลงข่าว ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) นายแพทย์ เศวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค ได้แถลงข่าว และได้ตอบคำถามต่อกรณีต่างๆ ดังต่อไปนี้
กรณีการตรวจที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ใช้การตรวจหาเชื้อน้อยไปจึงส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อลดลงหรือไม่ ชี้แจงว่าการตรวจหาเชื้อที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคมที่พบผู้ป่วยมากขึ้น ทำให้มีกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเกิดขึ้นตามจำนวน การตรวจหาเชื้อจึงต้องเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งขณะนี้ มีจำนวนผู้ป่วยลดน้อยลง กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงหรือผู้ใกล้ชิดต่างๆ จึงลดลงตามลำดับ ถือเป็นธรรมชาติของการระบาดในลักษณะดังกล่าว เมื่อผู้ป่วยลดลง ผู้ที่ต้องการตรวจหาเชื้อก็ลดลง ส่งผลต่ออัตราการตรวจในภาพรวม
อย่างไรก็ตามภาครัฐยังคงเน้นการตรวจเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมีอาการมีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เข้าถึงการตรวจได้ หรือหากไม่มีอาการ แต่ใกล้ชิดผู้ป่วย เป็นผู้สัมผัสก็สามารถเข้ารับการตรวจได้
ในส่วนกรณีการไม่นำผลตรวจของ ATK มารวมกับจำนวนผู้ติดเชื้อนั้น ยืนยันว่า เป็นการพิจารณาตามหลักทางวิชาการที่นิยามคำจัดความของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งอ้างอิงตามหลักปฏิบัติขององค์การอนามัยโลก ทั้งนี้ การแยกจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งสองส่วน ภาครัฐได้ติดตามควบคู่กันไปเพื่อใช้วิเคราะห์แนวโน้มและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่มีการปิดบังข้อมูลแต่อย่างใด
นายแพทย์ เศวตสรร กล่าวว่า ตอนนี้ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย สามารถเดินทางไปฉีดวัคซีนได้ที่ไหนบ้าง นายแพทย์ เศวตสรรฯ กล่าวว่า สำหรับพี่น้องชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สามารถลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนได้ใน 2 ช่องทาง คือ
1. เว็บไซต์ expatvac.consular.go.th ลงทะเบียนกับกระทรวงการต่างประเทศ
2. Application “vaccine บางซื่อ” ของศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ
อยากเชิญชวนพี่น้องชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ท่านสามารถขอเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยจะมีการจัดการนัดหมาย เพื่อให้ไปฉีดโดยไม่แออัด และเข้าถึงได้โดยง่าย
นพ.เฉวตสรร ย้ำว่า แนวโน้มประเทศไทย ตั้งแต่มีการปรับมาตรการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. แนวโน้มผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังขอความร่วมมือปฏิบัติตัวอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง
ส่วนกลุ่มก้อนการระบาดที่ยังเจอผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง คือ กลุ่มโรงงาน สถานประกอบการ แคมป์คนงาน โดยขณะนี้ มีจำนวน 318 คลัสเตอร์ รองลงมาคือการระบาดในตลาด ชุมชน ครอบครัว จำนวน 131 คลัสเตอร์ ขณะที่การระบาดในร้านอาหารหรือสถานบันเทิง พบ 3 คลัสเตอร์ แต่แม้ว่ามีการระบาดไม่มาก แต่จำยังจำเป็นต้องเฝ้าระวัง หลังภาครัฐผ่อนคลายปรับมาตรการ เช่นเดียวกับสำนักงาน โรงเรียน สถานศึกษา ที่พบกลุ่มก้อนการระบาดจำนวน 12 คลัสเตอร์ อย่างไรก็ตาม ยังพบการระบาดในวงพนัน สุรา พิธีทางศาสนา และสถานพยาบาล จึงขอเน้นย้ำเรื่องมาตรการในการป้องกันตนเองสูงสุด Universal Prevention