เปิดแผนจัดหาวัคซีนโควิด 24 ล้านโดสเดือนต.ค.

11 ก.ย. 2564 | 13:26 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ก.ย. 2564 | 20:32 น.

กรมควบคุมโรค เปิดแผนจัดหาวัคซีนโควิด 24 ล้านโดสในเดือนตุลาคม พร้อมเผยกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการฉีด จะมีกลุ่มไหนบ้าง และวัคซีนที่นำเข้ามาจะจัดสรรอย่างไร เช็คเลยที่นี่

กรมควบคุมโรค ได้เปิดแผนการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเดือนตุลาคม 2564 โดยประเทศไทยจะมีวัคซีนซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 10 ล้านโดส ไฟเซอร์ 8 ล้านโดส ดังนั้น แผนในการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 24 ล้านโดส นอกจากนี้ยังมีซิโนฟาร์มที่ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นำเข้ามาอีกประมาณ 6 ล้านโดส


ภาพรวมกลุ่มเป้าหมายการฉีดวัคซีนในเดือนตุลาคม แบ่งเป็น 
1.ประชาชนทั่วไปอายุ 18 ปีขึ้นไป 16.8 ล้านโดส  
2.นักเรียนอายุ 12-17 ปีทั่วประเทศ 4.8 ล้านโดส ฉีดไฟเซอร์ 2 เข็ม ส่วนจะฉีดกลุ่มไหนชั้นไหนก่อนจะร่วมกระทรวงศึกษาธิการดำเนินการ 
3.แรงงานในระบบประกันสังคม 8 แสนโดส  
4.หน่วยงานอื่น เช่น องค์กรรัฐ ราชทัณฑ์ 1.1 ล้านโดส 
5.เข็มสามสำหรับคนฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม 5 แสนโดส ซึ่งปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ 

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า แผนการฉีดวัคซีนโควิดที่ ศบค.เห็นชอบในเดือนตุลาคม เป้าหมายจะฉีดครอบคลุมประชากรทั้งหมดอย่างน้อยร้อยละ 50 ของทุกจังหวัด โดยพยายามให้อย่างน้อย 1 จังหวัดมีความครอบคลุมร้อยละ 70 และให้มีแผนดำเนินการ COVID free Area อย่างน้อย 1 พื้นที่ ซึ่งมีความครอบคลุมร้อยละ 80

 

อีกทั้ง ยังเน้นครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และหญิงมีครรภ์ให้มากที่สุด รวมไปถึงประชากรกลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ ตามคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจัดสรร

 

“เดือนตุลาคม เป็นเดือนที่ประชาชนจะมาฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ค่อนข้างมาก จึงต้องให้ได้รับครอบคลุมมากที่สุด  รวมทั้งกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป จะมีการจัดสรรในเดือนตุลาคมเช่นกัน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน ส่วนคนฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม จากข้อมูลพบว่า เมื่อเวลาผ่านไป วัคซีนที่ฉีดไปแล้วนั้น ภูมิคุ้มกันจะลดลง และเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อได้

 

ดังนั้น คนที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ต้องได้รับการกระตุ้นเข็ม 3 ในเดือนตุลาคมนี้ เบื้องต้นเริ่มในกลุ่มที่ฉีดครบโดสในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2564 และจะมีการจัดสรรวัคซีนไปยังพื้นที่เศรษฐกิจและควบคุมการระบาดต่อไป "
 

นายแพทย์โอภาส เปิดเผยว่า เมื่อประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี  ก็เชื่อว่า สถานการณ์การระบาดจะค่อย ๆ ลดลง สิ่งสำคัญจึงต้องขอความร่วมมือในการป้องกันโรคส่วนบุคคลแบบครอบจักรวาล หรือ Universal Prevention  รวมถึงการรับวัคซีน