หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 15 กันยายน 2564
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโก สหรัฐฯ ยังคงจำเป็นต้องหยุดดำเนินการผลิตกว่าร้อยละ 39 หลังเผชิญกับฝนตกหนักและไฟฟ้าดับจากพายุโซนร้อนนิโคลัส แต่พายุดังกล่าวยังสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของสหรัฐฯ น้อยกว่าพายุเฮอริเคนไอดาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
+ สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบเดือนตุลาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ปี 2564 และ 2565 มีอุปสงค์น้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.2 และ 3.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ
- อุปทานน้ำมันดิบมีแนวโน้มถูกกดดัน หลังประเทศจีนวางแผนเปิดประมูลน้ำมันดิบสำรองเชิงยุทธศาสตร์รอบแรกกว่า 7.4 ล้านบาร์เรล ในวันที่ 24 ก.ย. 64 นี้ ซึ่งจีนมองว่าจะช่วยรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบได้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลงกว่า 2.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 217.8 ล้านบาร์เรลในวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางอุปสงค์ที่มีแนวโน้มฟื้นตัว
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคยังตึงตัว ท่ามกลางอุปสงค์น้ำมันดีเซลประเทศอินเดียในเดือน ก.ย. ปรับลดลงกว่าร้อยละ 9
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) โดยราคาน้ำมันแผ่วลงในช่วงท้าย หลังจากที่พุ่งขึ้นทะลุระดับ 71 ดอลลาร์/บาร์เรลในระหว่างวัน เนื่องจากความกังวลที่ว่า พายุเฮอริเคนนิโคลัสจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันของรัฐเท็กซัสในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 70.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.ปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 73.60 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.ปีนี้