19 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เผยถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังคงต้องเฝ้าระวัง ควบคุมป้องกันกันอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่17ก.ย. 64 ได้สั่งการนายอำเภอทั้ง 23 อำเภอ ออกปฏิบัติการเชิงรุกพร้อมกัน โดยบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ ดำเนินมาตรการ 3 ประการ ได้แก่ การออกตรวจตลาด โรงงาน ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า การตรวจค้นหาผู้ไม่สวมหน้ากากอนามัย และการให้คำแนะนำมาตรการควบคุมโรคที่คณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดนครศรีธรรมราช
พร้อมออกคำสั่งและประกาศเพื่อกำกับการปฏิบัติให้มีความเข้มข้นขึ้น เช่น เรื่องของการห้ามจัดเลี้ยงในงานศพ ห้ามมีกิจกรรมสันทนาการ และอื่นๆ นอกจากจะนำมาตรการต่าง ๆ มาปฏิบัติแล้ว ประชาชนต้องให้ความร่วมมือ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการลดการแพร่ระบาดลงให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด -19 ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ณ วันที่ 19 ก.ย.64 พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 468 คน ซึ่งถือเป็นยอดที่สูงที่สุดของจังหวัด เป็นผู้ป่วยใน 19 อำเภอ ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยคืนถิ่นเพียง 5 คนเท่านั้น
ขณะที่อำเภอที่มียอดติดเชื้อสูงสุด คือ อ.เมือง จำนวน 278 ราย อ.ท่าศาลา 37 ราย และ อ.ปากพนัง 21 ราย ส่วนคลัสเตอรสำคัญที่กำลังแพร่ระบาด คือ คลัสเตอร์ทัณฑสถานวัยหนุ่มพบเพิ่มอีก 130 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตสะสมรวม 78 ราย
สำหรับกรณีที่มีผู้ติดเชื้อในทัณฑสถานวัยหนุ่มจังหวัดนครศรีธรรมราชนั้น เดิมมีการตรวจพบเพียงไม่กี่คน ในพื้นที่โซนที่ 2 ของเรือนจำซึ่งเป็นโซนที่รับผู้ต้องขังมาจากโซน 1 ที่เป็นโซนแรกรับ นำมากักตัวไว้สังเกตอาการ 7 วัน
พร้อมตรวจ ATKเมื่อผลเป็นลบ จึงส่งต่อมาที่โซน 2 เป็นโซนที่กักตัวไว้ 30 วัน ก่อนส่งเข้าสู่เรือนจำร่วมกับผู้ต้องขังอื่นๆทั่วไป เมื่อพบผู้ติดเชื้อ
จึงต้องมีการตรวจหาเชื้อในผู้ต้องขังทั้งหมด รวม 2,310 คน เจ้าหน้าที่ 61 คน ด้วย ATK พบผู้ติดเชื้อ 1,195คน เจ้าหน้าที่ 1คน จึงต้องควบคุมในลักษณะ bubble and seal เป็นแนวคิดในการควบคุมโรคสำหรับกลุ่มคนที่แข็งแรง และสามารถอยู่เป็นกลุ่มหรือจัดการให้อยู่ในกลุ่มได้ในพื้นที่จำกัด มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในทัณฑสถานฯ
สำหรับผู้ที่ไม่มีอาการรุนแรง ให้รับประทาน ยาฟาวิพิราเวียร์ และสมุนไพรฟ้าทลายโจร ส่วนที่มีอาการรุนแรงจะส่งโรงพยาบาลภายนอก ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีผู้ป่วยที่ส่งออกมายังโรงพยาบาลภายนอก และทุกคนภายในทัณฑสถานขณะนี้ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงต้องมีการกักตัว14วัน รวมทั้งมีการสุ่มตรวจ10 %ทุก7วัน
สำหรับผู้ที่จะออกมาภายนอก เพื่อขึ้นศาลหรืออื่น ๆ ทัณฑสถาน ได้มีการจัดพื้นที่โซนที่3ไว้ โดยก่อนออกและเมื่อกลับเข้าไป จะต้องมีการกักตัว7-14วัน ส่วนผู้ที่จะเข้าทัณฑสถานใหม่ ตำรวจและพนักงานสอบสวนจะต้องเพิ่มความเข้มในการคัดกรอง และนำไปแยกไว้ที่เรือนจำชั่วคราวเขาหมาก
ส่วนของผู้ต้องขังที่มีการหนดพ้นโทษ ก่อนถึงกำหนดพ้นโทษ ทัณฑสถานจะนำมากักตัวไว้ในโซนปลอดภัยก่อนปล่อยตัว 7-14 วัน เมื่อกลับไปแล้ว เจ้าพนักงานควบคุมโรคพื้นที่จะต้องติดตามและสังเกตอาการต่อเนื่องอีก 14 วัน
ถ้าติดเชื้อจะยังไม่ปล่อยตัวออกมาต้องรักษาจนหาย และการปล่อยตัวจะมีทีมสก๊อต นำตัวส่งยังสถานที่กักกัน หรือLQพื้นที่ภูมิลำเนา อีก 14 วัน ขอให้ประชาชนได้มั่นใจในมาตรการที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ดำเนินการอยู่ในขณะนี้
ที่มา : สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช