นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการร่วมกับ PPP Plastics กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ท้องถิ่นจังหวัดระยอง และพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารส่วนจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำโครงการ Rayong Less-Waste (ระยอง เลสเวสท์)
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโมเดลการจัดการขยะและพลาสติกใช้แล้วในระดับชุมชนและให้ความรู้ในโรงเรียน ด้วยแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนให้ครอบคลุมครบทั้ง 68 เทศบาล เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มมูลค่าและพัฒนาคุณภาพของพลาสติกใช้แล้วให้สามารถนำไปใช้เป็นประโยชน์ได้หลากหลายขึ้น เป็นการสร้างอาชีพ ลดปริมาณขยะไปหลุมฝังกลบ รวมถึงสนับสนุน Roadmap การจัดการขยะพลาสติกของภาครัฐที่กำหนดเป้าหมายการนำพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ 100% คาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณพลาสติกใช้แล้วและนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้มากกว่า 1,000 ตันต่อปี
"โครงการ Rayong Less-Waste ได้รับทุนสนับสนุนจาก Alliance To End Plastic Waste ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับโลกที่เกิดจากความร่วมมือของบริษัทในห่วงโซ่อุตสาหกรรมพลาสติก เพื่อร่วมแก้ปัญหาขยะพลาสติก โครงการนี้เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากโครงการระยองโมเดล ซึ่ง PPP Plastics และจังหวัดระยองได้ร่วมกับ 18 อปท. สร้างโมเดลการจัดการขยะและพลาสติกใช้แล้วในระดับชุมชน โดยในปี 2562 และ 2563 สามารถเพิ่มปริมาณพลาสติกสะอาดที่นำกลับไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่า 700 ตัน"
นายชาญชนะ กล่าวอีกว่า การที่จะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนเกิดขึ้นได้จริงและยั่งยืนนั้น จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ตั้งแต่ผู้ผลิต ห้างร้าน ผู้บริโภค และสิ่งสำคัญที่สุดในฐานะผู้บริโภค คือ การคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ตั้งแต่ครัวเรือนในชุมชน เพื่อให้ขยะแต่ละชนิดสามารถนำไปใช้ต่อให้เกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุด
ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ประธาน PPP Plastics และเลขาธิการองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กล่าวว่า โครงการ PPP Plastics จะร่วมผลึกกำลังกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อลดปริมาณขยะพลาสติกในทะเลไทยตาม Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 - 2573 และแผนปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง โดยจะลดปริมาณขยะพลาสติกในทะเลไทยลดลงไม่ต่ำกว่า 50% ภายในปี พ.ศ. 2570 พร้อมทั้งการผลักดันในเชิงนโยบายและเผยแพร่ความรู้สู่สาธารณชนเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการปลูกจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาขยะได้มีการดำเนินงานในบริบทที่มีความสอดคล้องกับแนวทางเศรษฐกิจ BCG หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green:BCG Model)ที่รัฐบาลกำหนดเป็นโมเดลเศรษฐกิจในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนและเป็นวาระแห่งชาติอีกด้วย
นายวิรัช เกลียวปฏินนท์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก ส.อ.ท. กล่าวว่า กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สภาอุตสาหกรรมฯ มีความพร้อมในการร่วมดำเนินโครงการเพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมย์และวัตถุประสงค์หลักของกลุ่มพันธมิตร AEPW และจังหวัดระยอง โดยนอกเหนือจากการคัดแยกขยะและขยายผลชุมชนต้นแบบแล้ว เรายังมองไปถึงแนวทางในการจัดการขยะพลาสติกตลอด Supply Chain ซึ่งจะสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Model ทั้งนี้ ยังเป็นการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย ให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีในอนาคตอีกด้วย
นายสมชาย รุ่งเรือง ท้องถิ่นจังหวัดระยอง กล่าวว่า ในนามของจังหวัดระยองและในฐานะคณะทำงานฯ พร้อมให้การสนับสนุนโครงการ Rayong Less-Waste เพื่อผนึกกำลังสร้างระยองต้นแบบจัดการขยะยั่งยืน เพื่อให้เกิดระบบการบริหารจัดการขยะภายในองค์กรรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เสริมความรู้สร้างความตระหนักและความร่วมมือในการเปลี่ยนพฤติกรรมการทิ้งขยะของคนในชุมชน ส่งเสริมให้มีระบบการจัดการขยะและคัดแยกที่ดี เพื่อเพิ่มอัตราการรีไซเคิลให้สูงขึ้นสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลด้านการแก้ไขปัญหาขยะตกค้างในทะเลที่ต้นทางมาจากบนฝั่ง