อิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น “เตี้ยนหมู่” ที่อ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงวันที่ 24 – 25 กันยายน 2564 ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำน้ำสายสำคัญในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ทางกรมชลประทาน ประสานจังหวัดอุบลราชธานีเพื่อแจ้งเตือนประชาชนริมแม่น้ำมูลเตรียมรับมือแล้ว โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และเตรียมเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำด้วย
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า น้ำจากพื้นที่ตอนบนสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำมูลตอนล่าง บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันที่สถานีวัดน้ำท่า M.7 (สะพานเสรีประชาธิปไตย) อำเภอเมืองอุบลราชธานี มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,174 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง (ฝั่งอำเภอวารินชำราบ) ประมาณ 21 เซนติเมตร แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่วนในพื้นที่ตอนบน แม่น้ำชี ที่อำเภอเขื่องใน ลำเซบก ที่อำเภอตระการพืชผล ลำโดมใหญ่ ที่อำเภอเดชอุดม ลำเซบาย ที่อำเภอเขื่องใน ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับระดับน้ำที่สูงขึ้นและอาจจะเกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำมูล แม่น้ำชี ลำเซบาย ลำเซบก และลำโดมใหญ่ รวมไปถึงลำน้ำสาขาต่างๆ กรมชลประทาน จึงได้ประสานแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำไปยังจังหวัดอุบลราชธานีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดังกล่าว ให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และเตรียมเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำด้วย
ด้านนายสัมพันธ์ เดือนศิริรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ ขนาด 8 นิ้ว 2 เครื่อง และขนาด 12นิ้ว 1 เครื่อง รวม 3 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำ(ปตร.) วัดเสนาวงศ์ อ.วารินชำราบ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากชุมชนท่าบ่งมั่ง ชุมชนเกตุแก้ว และชุมชนดีงาม ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมขัง เนื่องจากแม่น้ำมูลหนุนสูง รวมไปถึงการระบายน้ำจากพื้นที่เทศบาลเมืองวารินชำราบด้วย
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 7 ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาอุทกภัย เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์อุทกภัย ทั้งด้านบุคลากร และเครื่องมือต่างๆ เพื่อบูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยได้อย่างทันที และขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่จุดเสี่ยงและพื้นที่ที่ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังอยู่ หากพบปัญหาสามารถแจ้งไปยังโครงการชลประทานจังหวัดใกล้บ้าน หรือโทร 1460 สายด่วนกรมชลประทานได้ตลอดเวลา