ราคาน้ำมันดิบพุ่ง หลังกลุ่มโอเปกพลัสคงมติการปรับเพิ่มกำลังการผลิต

05 ต.ค. 2564 | 01:22 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ต.ค. 2564 | 08:27 น.

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังกลุ่มโอเปกพลัสคงมติการปรับเพิ่มกำลังการผลิตที่ 4 แสนบาร์เรลต่อวันสำหรับเดือน พ.ย.64 ในการประชุมครั้งล่าสุด

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 5 ตุลาคม 2564

ราคาน้ำมันดิบพุ่ง หลังกลุ่มโอเปกพลัสคงมติการปรับเพิ่มกำลังการผลิต

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดมากกว่า 3 ปี หลังกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร (โอเปกพลัส) คงมติการปรับเพิ่มการผลิตที่ 4 แสนบาร์เรลต่อวันสำหรับเดือน พ.ย.64 ในการประชุมครั้งล่าสุด จากปัจจัยการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันโลก แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางกลุ่มจะมีการพิจารณาปรับการผลิตเพิ่มมากกว่ามติที่มีการตกลงไว้      ส่งผลให้ตลาดน้ำมันดิบมีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น

+ อุปสงค์น้ำมันปรับเพิ่ม หลังได้รับแรงหนุนราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า  300% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่งผลให้โรงไฟฟ้าหลายแห่งในตะวันออกกลางและเอเชียใต้ มีการนำเข้าน้ำมันเพื่อเป็นเชื้อเพลิงแทนที่ก๊าซธรรมชาติสำหรับการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น

+ องค์การอนามัยโลกรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันทั่วโลก ล่าสุด ณ วันที่ 4 ต.ค.64 อยู่ที่ระดับ 257,172 รายลดลงจาก 655,298 รายในเดือนก่อนหน้า หรือคิดเป็นการปรับลดกว่า 60% ขณะที่จำนวนผู้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับมากกว่า 40% สนับสนุนความต้องการฟื้นตัวเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปรับเพิ่มหลังมีการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางในหลายประเทศมากขึ้น ขณะที่อุปสงค์จากจีนเพิ่มสูงขึ้นในช่วงวันหยุดเทศกาลวันชาติ (Golden Week)

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดน้ำมันดีเซลในเอเชียตึงตัวมากขึ้นจากการปรับลดอัตราการดำเนินการผลิตของโรงกลั่นอินเดีย ท่ามกลางการส่งออกจากประเทศในแถบเอเชียเหนือที่ปรับตัวลดลง

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปีเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) ขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันตามคาดในการประชุมเมื่อวานนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.74 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 77.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนวันที่ 11 พ.ย. 2557

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.98 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 81.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2561