สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) และสมาชิกสภา อบต. ยื่นใบสมัครต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบล พร้อมทั้งหลักฐานและค่าธรรมเนียมการสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2564 ถึง วันที่ 15 ตุลาคมนี้
สำหรับการรับสมัครในวันแรกได้รับความสนใจจากผู้สมัครจำนวนมาก โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รายงานว่า ผลการเปิดรับสมัครในวันแรก คือ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ในจำนวน อบต.รวม 5,300 แห่งทั่วประเทศ มีผู้สมัครนายกและสมาชิก อบต. ครบทั้ง 76 จังหวัด รวม 98,398 ราย แยกเป็น ผู้สมัครสมาชิกสภาอบต. จำนวน 88,835 ราย ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกอบต. จำนวน 9,563 ราย โดยจังหวัดที่มียอดรวมผู้สมัครนายกและสมาชิกอบต.สูงสุด 5 อันดับแรก มีดังนี้
1.จังหวัดนครราชสีมา รวม 5,409 ราย
2.จังหวัดบุรีรัมย์ รวม 3,025 ราย
3.จังหวัดนครสวรรค์ รวม 2,693 ราย
4.จังหวัดขอนแก่น รวม 2,623 ราย
5.จังหวัดเพชรบูรณ์ รวม 2,502 ราย
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิรับเลือกตั้ง
ลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
นอกจากนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดในปัจจุบัน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศ ห้ามผู้อยู่ระหว่างกักตัวจากโควิด-19 ออกมาสมัครรับเลือกตั้ง อบต.และใช้สิทธิเลือกตั้ง อบต.ด้วย
บทกำหนดโทษ
กรณีผู้สมัครที่รู้ว่าตัวเองขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครแล้วมาสมัครมีโทษตามมาตรา 120 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 -200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการสมัคร
ผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งสามารถขอคัดสำเนาหลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาย้อนหลัง 3 ปี ได้ที่สำนักงานสรรพากรเขตพื้นที่ในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง
หลักฐานอื่นที่ผู้สมัครนำมาแสดงว่า ตนเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน และไม่มีลักษณะต้องห้ามที่มิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น และ พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล
ค่าธรรมเนียมการสมัคร