โควิดชลบุรี ติดเชื้อรายใหม่ 434 ราย คลัสเตอร์ทหารเรือสกัดไม่อยู่พุ่ง 64 ราย

15 ต.ค. 2564 | 00:41 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ต.ค. 2564 | 07:42 น.

โควิดชลบุรี ติดเชื้อรายใหม่ 434 ราย ลามจาก 4 คลัสเตอร์ เฉพาะคลัสเตอร์ทหารเรือสัตหีบยอดป่วยสะสมพุ่ง 1,291 ราย วันนี้(15 ต.ค.) ยอดผู้เสียชีวิต 3 ราย อายุเฉลี่ย 67 ปีมีโรคประจำตัว ทุกรายยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด

15 ตุลาคม 64 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี (สสจ.ชลบุรี) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประจำวัน วันนี้มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 434 ราย  ยอดสะสม 95,775 ราย รักษาหายเพิ่ม 825 ราย ยอดรักษาหายสะสม 86,659 ราย กำลังรักษา 8,448 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย และยอดเสียชีวิตสะสม 668 ราย 

โควิดชลบุรี ติดเชื้อรายใหม่ 434 ราย  คลัสเตอร์ทหารเรือสกัดไม่อยู่พุ่ง 64 ราย

รายละเอียดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่

1. Cluster เขตพื้นที่ทหารเรือ อำเภอสัตหีบ 64 ราย สะสม 1,291 ราย
    1.1 ทหารเกณฑ์ 54 ราย
    1.2 ข้าราชการทหารเรือ 10 ราย
2. Cluster บริษัท ซิงหวอไท่ จำกัด อำเภอบางละมุง 5 ราย สะสม 5 ราย
3. Cluster แคมป์ก่อสร้าง บริษัท อ่างทอง บิวดิ้ง จำกัด อำเภอบางละมุง 4 ราย สะสม 4 ราย
4. Cluster บริษัท แวนด้าแพค จำกัด อำเภอเมืองชลบุรี 4 ราย สะสม 244 ราย
5. สถานประกอบการในจังหวัดระยองหลายแห่ง 29 ราย สะสม ราย
 

6. อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 5 ราย
7. บุคลากรทางการแพทย์ 2 ราย
8. ให้ประวัติเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงต่างจังหวัด (จังหวัดระยอง) 6 ราย
9. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
    9.1 ในครอบครัว 121 ราย
    9.2 จากสถานที่ทำงาน 74 ราย
    9.3 บุคคลใกล้ชิด 19 ราย
    9.4 ร่วมวงสังสรรค์ 2 ราย
10. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อยู่ระหว่างสอบสวนโรค) 26 ราย
11. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 73 ราย

รายละเอียดของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19

ผู้เสียชีวิตรายใหม่ทั้ง 3 รายของวันนี้ มีอายุเฉลี่ย 67 ปี เป็นผู้สูงอายุทุกราย ซึ่งสัมผัสในครอบครัวของผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า มีปัจจัยเสี่ยงร่วมที่ทำให้ความรุนแรงของโรคที่นำไปสู่การเสียชีวิต คือการมีโรคประจำตัว ได้แก่ ความดันโลหิตสูง โรคไตเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง  โรคหลอดเลือดสมอง และทุกรายไม่พบประวัติการรับวัคซีน ดังนั้น การฉีดวัคซีนจะช่วยป้องกันไม่ให้ป่วยหนัก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรังควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 เนื่องจากบุคคลกลุ่มนี้มีอัตราป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 มากกว่ากลุ่มอื่น