หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 18 ตุลาคม 2564
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังตลาดคาดการณ์อุปทานน้ำมันดิบมีแนวโน้ม ตึงตัวในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เนื่องจากการฟื้นตัวของความต้องการใช้น้ำมันหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันสำหรับเป็นเชื้อเพลิงในโรงผลิตไฟฟ้า ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินยังอยู่ในระดับสูง
+ สหรัฐฯ ประกาศยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางเข้าสหรัฐฯ สำหรับชาวต่างชาติใน 30 ประเทศ ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดส โดยจะมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. 64 ซึ่งจะสนับสนุนการฟื้นตัวของความต้องการใช้น้ำมันอากาศยาน
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุด 8 ต.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 6.1 ล้านบาร์เรล หลังกำลังการผลิตของโรงกลั่นปรับลด 2.9% เพราะอยู่ในช่วงปิดซ่อมบำรุง
- จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ ณ สัปดาห์สิ้นสุด 15 ต.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 10 แท่น แตะระดับ 543 แท่น ตามรายงานของ Baker Hughes หลังราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุด 8 ต.ค. ปรับลด 1.96 ล้านบาร์เรล ตามรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณส่งออกน้ำมันดีเซลจากโรงกลั่นในภูมิภาคเอเชียเหนือลดลง เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดซ่อมบำรุงและโควต้าการส่งออกที่มีอยู่อย่างจำกัด
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (15 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 97 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 82.28 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. 2557 และในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พุ่งขึ้น 3.7%
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 84.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค. 2561 และในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พุ่งขึ้น 3%