ฐานเศรษฐกิจ เกาะติดประกาศเคอร์ฟิว หรือ การห้ามออกนอกเคหสถาน ในพื้นที่สีแดงเข้ม หรือ พื้นที่ควบคุมสูงสุด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด 19 ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการคลายล็อกดาวน์ และรองรับการเปิดประเทศ
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2564 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) หรือ ศบค. เรื่อง พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งสิ้น 17 จังหวัด ประกอบด้วย
ซึ่งทั้ง 17 จังหวัดพื้นที่ดังกล่าว ถูกกำหนดให้อยู่ในประกาศ “การยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน ให้ยกเลิการห้ามออกนอกเคหสถาน ให้มีผลตั้งแต่เวลา 23.00น. น. ของวันที่ 31 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ตามประกาศ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๓๖) ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 64
ขณะเดียวกันยังคงมีอีก 7 จังหวัด ที่มีประกาศเคอร์ฟิว หรือ การห้ามออกนอกเคหสถาน ซึ่งเป็น 7 จังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม ตามมติศบค. วันที่ 29 ตุลาคม 2564
ที่ลดพื้นที่สีแดงเข้ม จาก 23 จังหวัด เหลือ 7 จังหวัด ที่ยังอยู่มีประกาศเคอร์ฟิวช่วงเวลา 23.00-03.00 น. โดย 7 จังหวัดที่มีเคอร์ฟืวมีดังนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากพื้นที่นำร่องเพื่อการท่องเที่ยว 17 จังหวัด ที่ไม่มีประกาศเคอร์ฟิวแล้ว ยังมีอีกหลายจังหวัด ที่ก่อนหน้านี้อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม และต่อมามติศบค.วันที่ 29 ตุลาคม 64 ได้ปรับโซนสีโควิดใหม่อีกครั้ง มีการลดพื้นที่สีแดงเข้มลงจาก 23 เหลือ 7 จังหวัด ทำให้ 16 จังหวัดที่เคยมีประกาศเคอร์ฟิวเพราะอยู่พื้นที่สีแดงเข้ม เริ่มมีผลบังคับใช้ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิววันที่ 31 ตุลาคม เวลา 23.00 น. เป็นต้นไปด้วยเช่นกัน