ชื่อของ “เสี่ยโจ้ ปัตตานี” หรือ นายสหชัย เจียรเสริมสิน อายุ 53 ปี กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังจากตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ภาคใต้ และถูกตำรวจกองปราบจับกุมได้จากย่านห้วยขวางระหว่างหลบหนี
ข้อมูลการสืบสวนพบว่า “เสี่ยโจ้” ใช้หนังสือเดินทางของประเทศกัมพูชาเดินทางเข้ามากบดานย่านห้วยขวาง ตำรวจจึงวางแผนจับกุม ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานเสนอ ปปง.ยึดทรัพย์เพราะเป็นความผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อปี 2555 กอ.รมน.ได้จับกุม เสี่ยโจ้ ที่จังหวัดปัตตานี พร้อมกับยึดของกลาง เป็นเงินสด 46 ล้านบาท , น้ำมัน 2000 ลิตร แต่ไปพบหลักฐานการซื้อขายน้ำมันเถื่อน จำนวน 500 ล้านลิตร
พร้อมบัญชีจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน จึงดำเนินคดีเรื่องการค้าน้ำมันเถื่อน จากนั้นก็ได้ดำเนินคดีเพิ่มเติม ในความผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน
เนื่องจากการค้าน้ำมันเถื่อน เข้าข่ายความผิดมูลมูลฐาน ซึ่งได้ออกหมายจับเสี่ยโจ้ในเวลาต่อมา แต่เสี่ยโจ้พยายามหลบหนีมาโดยตลอด
ตำรวจได้ตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ค้าน้ำมันเถื่อนทั้งคดีเก่าและใหม่ จะขยายผล ตรวจสอบทรัพย์สิน คดีฟอกเงิน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับขบวนการน้ำมันเถื่อนที่ตำรวจน้ำจับกุมเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาหรือไม่นั้น ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
“เสี่ยโจ้ ปัตตานี” เป็นใคร ??
นายสหชัย เจียรเสริมสิน คนทั่วไปรู้จักในชื่อ “เสี่ยโจ้” เจ้าของธุรกิจ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สหทรัพย์ค้าไม้ ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรม จ.ปัตตานี ทำธุรกิจค้าไม้ต่อเรือประมง รายใหญ่ ไม้ส่วนใหญ่นำเข้ามาจาก สปป.ลาว เรียกได้ว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลในพื้นที่ภาคใต้ก็ว่าได้
แน่นอนว่าเขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ตำรวจรู้จักกันดีและเป็นที่ต้องการตัว
เส้นทางการทำธุรกิจของ “เสี่ยโจ้”
เริ่มทำธุรกิจจากการเป็นเจ้าของแพปลา ก่อนผันตัวเป็นเจ้าของโต๊ะพนันฟุตบอล และหวยเถื่อน จนพบช่องทางค้าไม้เพื่อใช้กับอู่ต่อเรือ และซ่อมเรือ ได้ร่วมลงทุนทำธุรกิจค้าไม้ระหว่างประเทศ
โดยประมูลและสัมปทานไม้คุณภาพดี เช่น ไม้ตะเคียนลาว แล้วแปรรูปที่อู่ต่อเรือต้องการ โดยได้ตั้งบริษัทนำเข้าที่ จ.หนองคาย และ จ.บึงกาฬ เพื่อส่งต่อมายัง จ.ปัตตานี แล้วนำส่งให้ หจก.สหทรัพย์ค้าไม้ อีกทอดหนึ่ง
เขาเริ่มเห็นช่องทางในการค้าน้ำมันเถื่อนข้ามชาติ และเปิดร้านรับแลกเงินตราขึ้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อให้การทำธุรกิจเป็นไปแบบครบวงจร
เดือน ต.ค.2555 กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และดีเอสไอ เข้าตรวจค้น หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ ในข้อหาค้าน้ำมันเถื่อน ฟอกเงิน ค้าไม้เถื่อน และพัวพันกับขบวนการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
พบ “บัญชีส่วย” มีชื่อของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในเเวดวงตำรวจและศุลกากร จำนวนหนึ่ง
ชื่อของเขาโด่งดังขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2557 หลัง คสช.เข้ายึดอำนาจ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้น หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้อีกครั้ง ยึด “ตราประทับ” เข้าเมืองได้
มีการประกันตัวในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ก่อนที่ศาลจังหวัดปัตตานี ตัดสินลงโทษเสี่ยโจ้ 1 ปี 9 เดือน เขาหลบหนีจากศาลจังหวัดปัตตานีไปอยู่นอกประเทศ
ชุดภัยแทรกซ้อนของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กดดันอย่างหนัก ว่ากันว่าเขารู้จักผู้ใหญ่ในวงการการเมืองและต้องการให้ช่วยเหลือ
ปี 2560 ลือกันว่าเขากลับมาอาศัยที่บ้านใน จ.ปัตตานี จนมีการตั้งคำถามว่าทำไมจึงไม่ถูกจับกุม
เส้นทางสารพัดคดีสีเทา “เสี่ยโจ้ ปัตตานี”
ข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พบว่าเสี่ย ถูกดำเนินคดีอาญาทั้งหมด 14 คดี