ฉีดวัคซีนโมเดอร์นากระตุ้นเข็ม 3 หมอยงเผยให้หลังเชื้อตายยยังไม่มีข้อมูล

09 พ.ย. 2564 | 01:18 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ย. 2564 | 08:17 น.

หมอยงเผยข้อมูลการฉีดวัคซีนโมเดอร์นากระตุ้นเข็ม 3 ในต่างประเทศ ชี้การฉีดหลังเริ่มต้นด้วยเชื้อตายยยังไม่มีข้อมูล ระบุกำลังเริ่มศึกษา

รายงานข่าวระบุว่า ศ.นพ.ยง  ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสเฟซบุ๊ก (Yong Poovorawan) โดยมีข้อความว่า
โควิด-19 วัคซีน   วัคซีนโมเดิร์นนา (Moderna)
การให้วัคซีนเข็มกระตุ้น mRNA วัคซีน  mRNA  ที่ใช้ในบ้านเรามีอยู่ 2 บริษัท คือ Pfizer ที่มีขนาดโดสผู้ใหญ่ ปริมาณ RNA อยู่ที่ 30 mcg  และขนาดของเด็ก 5-11 ปี ปริมาณ RNA 10 mcg (ยังไม่ยื่นผ่าน อ.ย.ให้ใช้ในประเทศไทย)

Moderna ขนาดโดสผู้ใหญ่มีปริมาณ  RNA  100 mcg  การกระตุ้นเข็ม 3 ใน USA ให้ Moderna  กระตุ้นเข็ม 3 ในผู้ที่เคยได้รับ  Moderna  หรือ  Pfizer  มาแล้ว  2 เข็ม ด้วยขนาดครึ่งโดส (50 mcg)
ในอังกฤษ และขณะนี้ในยุโรปหลายประเทศ การใช้ Moderna  วัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ในผู้ที่เคยได้รับวัคซีน AstraZeneca  2 เข็มมาแล้ว อาจให้ครึ่งโดส 50 mcg (JCVI, Joint Committee for Vaccines and Immunisation ของอังกฤษ) ผู้สูงอายุ เกิน 70 ปี ในประเทศสวิส ให้ใช้เต็มโดส 100 mcg 

โควิด-19 วัคซีน   วัคซีนโมเดิร์นนา

ประเทศไทย ถ้าจะให้  Moderna  กระตุ้น หลังได้รับ  AstraZeneca 2 เข็ม จะตามแบบอังกฤษก็ได้คือให้เพียงครึ่งเดียว 50 ไมโครกรัมก็มีความเป็นไปได้ แต่ถ้าการให้กับผู้ที่เริ่มต้นด้วยเชื้อตาย Sinovac  หรือ  Sinopharm  2 เข็ม  ยังไม่มีข้อมูลการกระตุ้นด้วย Moderna ว่าจะให้ขนาดเท่าไหร่ 

ขณะนี้ทางศูนย์ได้เริ่มการศึกษาเปรียบเทียบ การให้วัคซีนในผู้ที่เคยได้รับวัคซีนเชื้อตายมาก่อน   ได้ AstraZeneca มา 2 เข็ม หรือการฉีดไขว้ เชื้อตาย กับ AstraZeneca และกระตุ้นเข็ม 3 ด้วยวัคซีน Moderna แบบเต็มโดสและครึ่งโดส ข้อมูลจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุน้อย และร่างกายแข็งแรง เพื่อที่จะลดอาการแทรกซ้อนให้น้อยลง และใช้วัคซีนให้คุ้มค่า
สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 (covid-19) ในประเทศไทยนั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-7 พ.ย. 64 มีการฉีดวัคซีนสะสมจำนวน 80,499,612 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 43,990,610 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 33,912,537 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 2,596,465 ราย