แอสตร้าฯเฮ FDA ไฟเขียวขึ้นทะเบียนยา “Evusheld” ป้องกันเชื้อไวรัสก่อโควิด

10 ธ.ค. 2564 | 08:10 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ธ.ค. 2564 | 15:12 น.

แอสตร้าเซนเนก้าเฮ FDA ไฟเขียวขึ้นทะเบียนยา “Evusheld” ใช้ในภาวะฉุกเฉิน ป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19

ยา Evusheld  หรือชื่อเดิม AZD7442 ยาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว (Long-acting Antibody - LAAB) แบบผสมได้รับการขึ้นทะเบียนให้นำมาใช้ในภาวะฉุกเฉินในสหรัฐอเมริกา สำหรับการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ซึ่งผลการศึกษาระยะที่ 3 แสดงให้เห็นว่า Evusheld หนึ่งโดส สามารถให้การป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยาวนานในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูง

 

นายเจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า Evusheld ของแอสตร้าเซนเนก้า (ซึ่งคือแอนติบอดีสองชนิด ได้แก่ tixagevimab และ cilgavimab) ยาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว (Long-acting Antibody - LAAB) แบบผสมได้รับการขึ้นทะเบียนให้นำมาใช้ในภาวะฉุกเฉินในสหรัฐอเมริกา สำหรับการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 โดยคาดว่าจะมียาโดสแรกพร้อมใช้ในเร็วๆ นี้

เจมส์ ทีก

องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้ขี้นทะเบียน Evusheld เพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน สำหรับการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ในกลุ่มผู้ใหญ่และกลุ่มวัยรุ่น (ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักมากกว่า 40 กิโลกรัม) ซึ่งเป็นผู้ที่มีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันบกพร่องปานกลางถึงรุนแรง เนื่องมาจากการรักษาทางการแพทย์ หรือได้รับยากดภูมิคุ้มกัน และผู้ที่อาจมีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ไม่เพียงพอ รวมถึงผู้ที่ไม่สามารถรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ ผู้ที่ได้รับยานี้ต้องไม่เป็นผู้ติดเชื้อ หรือเป็นผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อ SARS-CoV-2

 

“การอนุมัติขึ้นทะเบียนยา Evusheld ให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญของโลก เราน้อมรับข่าวดีนี้และโอกาสในการช่วยตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงด้วยยาชนิดดังกล่าว โดยเราได้เริ่มประสานงานกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขในประเทศไทย เพื่อรายงานความคืบหน้าและนำส่งข้อมูลงานวิจัยล่าสุดแล้ว"

 

ยา Evusheld เป็นการผสมกันระหว่างโมโนโคลนอลแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว 2 ชนิด และเป็นยาแอนติบอดีเพียงชนิดเดียวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้นำมาใช้ในภาวะฉุกเฉินในสหรัฐอเมริกาสำหรับการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 และเป็นยาแอนติบอดีที่ใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพียงหนึ่งโดส (ปริมาณตัวยา tixagevimab และ cilgavimab อย่างละ 150 มิลลิกรัม)

แอสตร้าเซนเนก้า

ประชากรทั่วโลกประมาณ 2% มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะมีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ลดลง1,2 มีประชากรชาวอเมริกันประมาณ 7 ล้านคนเป็นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งอาจได้รับประโยชน์จากการใช้ยา Evusheld สำหรับการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 1,3,4  อาทิ ผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือด ผู้ป่วยโรคมะเร็งอื่น ๆ ที่ได้รับเคมีบำบัด ผู้ป่วยที่ใช้ยาหลังจากการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์5-9

 

ข้อมูลสนับสนุนเบื้องต้นสำหรับการขึ้นทะเบียนยา Evusheld เพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน มาจากการศึกษา พรูฟเวนท์ (PROVENT) ระยะที่ 3 สำหรับการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ซึ่งแสดงผลอย่างชัดเจนในการลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคโควิด-19 แบบมีอาการในกลุ่มผู้เข้าร่วมการทดลองที่ได้รับยานี้ (77% จากการวิเคราะห์เบื้องต้น และ 83% จากการวิเคราะห์ค่ามัธยฐานที่ระยะเวลา 6 เดือน)

 

เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (Placebo)  พร้อมด้วยระดับประสิทธิภาพการป้องกันที่มียาวนานอย่างน้อย 6 เดือน นอกจากนี้ข้อมูลจากการศึกษา STORM CHASER ระยะที่ 3 ซึ่งเป็นการศึกษาหลังการสัมผัสเชื้อ และการศึกษา Evusheld ระยะที่ 1 ยังสนับสนุนการขึ้นทะเบียนยา Evusheld เพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน  จากภายใต้การศึกษาต่างๆของยา Evusheld นั้นพบว่าผลข้างเคียงของยาเป็นที่ยอมรับได้ดี

แอสตร้าเซนเนก้า

ขณะนี้บริษัทกำลังเร่งศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ Evusheld ในการป้องกันสายพันธุ์โอไมครอน (B.1.1.529) 10,11  โดยจากการทดลองใช้ยา Evusheld จนถึงปัจจุบัน ในการทดสอบบริเวณการจับแทนที่ของไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ยังไม่พบการหลีกหนีการลบล้างจากฤทธิ์ยา Evusheld10,11  ผลจากการทดสอบในหลอดทดลองพบว่า ยา Evusheld มีประสิทธิภาพในการต่อต้านไวรัสโคโรนา SARS-CoV-2 สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์เดลต้าและมิว10

 

ยา Evusheld ที่กำลังพัฒนาอยู่นี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมไปถึงเงินทุนจากหน่วยงานด้านสุขภาพและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ  ภายใต้การกำกับดูแลของ Office of the Assistant Secretary for Preparedness and Response และ Biomedical Advanced Research and Development Authority ภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงกลาโหม และ Joint Program Executive Office for Chemical, Biological, Radiological and Nuclear Defense ภายใต้สัญญาหมายเลข W911QY-21-9-0001

 

แอสตร้าเซนเนก้าได้ตกลงจะจัดหายา Evusheld จำนวน 700,000 โดส ให้แก่รัฐบาลของสหรัฐอเมริกา โดยรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาจะดำเนินการร่วมกับรัฐต่างๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงตัวยาดังกล่าวโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

 

แอสตร้าเซนเนก้ากำลังดำเนินการยื่นเอกสารต่อหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลก เพื่อขออนุมัติขึ้นทะเบียนยา Evusheld ให้ใช้งานในภาวะฉุกเฉิน หรือขออนุมัติยา Evusheld แบบมีเงื่อนไข เพื่อใช้ป้องกันและรักษาโรคโควิด-19