วันที่ 21 ธันวาคม 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติที่ประชุม ศบค.เฉพาะกิจล่าสุดที่มีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และมีมติปรับมาตรการเข้าราชอาณาจักร ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.529 (Omicron) หรือ “โอมิครอน”
โดยมติ ศบค.เฉพาะกิจ เห็นชอบมาตรการเข้าราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม - 4 มกราคม 2565 ดังนี้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวให้ความมั่นใจ สำหรับผู้ที่ได้ลงทะเบียน ประมาณ 200,000 คน ในระบบ Test and Go ยังสามารถทยอยเดินทางเข้าประเทศตามแผนการเดินทางของแต่ละท่าน แต่จะมีมาตรการติดตามที่เข้มขึ้น เช่น การตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง คือ วันแรกที่เดินทางเข้าประเทศ และวันที่ 7 โดยในการตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 รัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
ซึ่งเป็นมาตรการชั่วคราวมีผลวันนี้ คือ 21 ธันวาคม -4 มกราคม 2565 หลังจากนี้ ศบค. จะมีการติดตามสถานการณ์ระหว่างนี้ อย่างใกล้ชิด เพี่อจะนำปรับมาตรการ หลัง 4 ม.ค. 65 อีกครั้ง โดยยึดความมั่นคงด้านสุขภาพของพี่น้องคนไทย และผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศ
นายธนกร กล่าวอีกว่า สถานการณ์ทั่วโลกขณะนี้ ใน 36 ประเทศ พบรายงานการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนในผู้ที่ไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ ยุโรปรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน กว่า 5,500 ราย และสหราชอาณาจักร รายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว 12 ราย
ขณะที่ประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันสายพันธุ์โอมิครอน รวม 27 ราย โดยพบจากระบบการเข้าประเทศแบบ Test & Go 20 ราย แบบ Sandbox 3 ราย และ AQ 3 ราย จำแนกเป็น คนไทย 11 ราย สหรัฐอเมริกา 6 ราย อังกฤษ 4 ราย และอื่น ๆ 6 ราย ซึ่งพบผู้ติดเชื้อในประเทศ 1 ราย ติดเชื้อจากการใกล้ชิดผู้มีประวัติเดินทาง
ทั้งนี้ พบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยจากระบบ Test & Go ในเดือนพฤศจิกายน 83 ราย และในเดือนธันวาคม 227 ราย เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า จึงต้องมีการปรับมาตรการป้องกันให้เข้มขึ้นยิ่งขึ้น ยืนยันว่าไม่ใช่การปิดประเทศแต่อย่างใด