โรงเรียนหนีไม่พ้นโควิดระบาด หมอยงชี้เด็กจะเป็นผู้กระจายเชื้อได้มาก

10 ม.ค. 2565 | 08:28 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ม.ค. 2565 | 19:31 น.

โรงเรียนหนีไม่พ้นโควิดระบาด หมอยงชี้เด็กจะเป็นผู้กระจายเชื้อได้มาก เพราะอะไร อ่านครบจบที่นี่ แนะผู้ใหญ่ทุกคนจะต้องมีภูมิต้านทาน ไม่ว่าจะเป็นการได้รับวัคซีนหรือการติดเชื้อ

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสเฟซบุ๊ก (Yong Poovorawan) โดยมีข้อความว่า
 

 

โควิด-19 (Covid-19) เด็กจะเป็นผู้กระจายเชื้อ ได้มาก
เด็กติดเชื้อโควิค-19  อาการจะน้อยมาก หรือไม่มีอาการเป็นส่วนใหญ่ อันตรายถึงชีวิตยิ่งน้อยมากๆ 

 

การศึกษาในอเมริกา ในช่วงที่มีการระบาดสูงมากของโอมิครอน (Omicron) เด็กเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นก็จริง เพราะมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และเด็กจำนวนหนึ่งที่เข้ารับการรักษาด้วยสาเหตุอื่น แต่ตรวจพบโควิด-19 ก็มีมากขึ้น
ปัญหาสำคัญของการติดเชื้อในเด็ก ที่มีอาการน้อย แต่เด็กจะเป็นผู้กระจายเชื้อหรือแพร่เชื้อได้ดีมาก 

 

เด็กป่วย ไม่สามารถแยกตัวเองออกไปได้ พ่อแม่ผู้ปกครองจะคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ติดโรค 
 

ผมมีคนไข้เด็กที่ติดจากสถานเลี้ยงเด็ก เมื่อตรวจพบ แม่ยอมติดเชื้อด้วย เพราะต้องดูแลรักษาลูก รวมทั้งบุคคลในบ้าน เมื่อเด็กคนหนึ่งเป็น พี่น้องที่วิ่งเล่นด้วยกัน ก็จะติดกันอย่างแน่นอน

 

ในอดีตที่ผ่านมา เชื้อส่วนใหญ่อยู่ในผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่สามารถแยกตัวออกมาได้ ป้องกันไม่ให้ติดเด็ก 

 

แต่เมื่อมีการระบาดอย่างมากโดยเฉพาะ โอมิครอน การติดเชื้อจะลงมาสู่เด็กอย่างแน่นอน 

 

เด็ก ภาระความรุนแรงโรคน้อยมาก แต่จะเป็นผู้กระจายโรค ไปสู่คนในบ้าน 

 

เด็กเล็กจะกระจายไปสู่ผู้ดูแล ด้วยการสัมผัสใกล้ชิด กอดจูบ เล่นด้วยกันระหว่างเด็ก 

 

เด็กจำเป็นต้องไปโรงเรียน ในอนาคตเราคงหนีไม่พ้น การติดในโรงเรียน ที่เหมือนแบบโรคหวัดทั่วไปโดยเฉพาะในเด็กเล็ก

 

เด็กโตหรือวัยรุ่น จะมีสภาพสังคม และการเคลื่อนย้ายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการระบาดในวงกว้างได้มากกว่าเด็กเล็ก 
 

ถึงแม้ว่าความรุนแรงของโรคในเด็กจะน้อยมาก เมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ ความสำคัญในการแพร่กระจายโรคมีมากกว่า 

 

วัคซีนที่ใช้ในเด็ก ที่ต้องการจะต้องมีความปลอดภัย ต้องมาก่อน และจะต้องมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อมากกว่า ลดความรุนแรงของโรค  เพราะถ้าให้วัคซีนแล้วเด็กยังสามารถติดเชื้อ โดยไม่มีอาการ จะไม่เกิดประโยชน์ในการลดการแพร่กระจายโรคได้  

 

 

เด็กมีโอกาสแพร่เชื้อโควิด-19 ได้มาก

 

ช่วงเวลาที่ผ่านมา เด็กมีปัญหาเรื่องการเรียน ที่ต้องเรียนทางไกล ทำให้ประสิทธิภาพการศึกษาของเด็กลดลงอย่างมาก ผ่านมา 2 ปีแล้ว ในอนาคตเด็กต้องไปโรงเรียนอย่างแน่นอน 

 

โรคโควิด-19 โอมิครอน มีแนวโน้มความรุนแรงโรคลดลง ก็น่าจะเป็น coronavirus อีกตัวหนึ่งจากที่เคยมีอยู่แล้ว 4 ตัว ที่เราไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ 

 

ผู้ใหญ่ทุกคนจะต้องมีภูมิต้านทาน ไม่ว่าจะเป็นการได้รับวัคซีนหรือการติดเชื้อ และชีวิตของเด็ก ก็จะต้องกลับเข้าสู่สภาพเดิมโดยเฉพาะชีวิตในโรงเรียน

 


สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในประเทศไทย วันที่ 10 มกราคม 2565 นั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. พบว่า โอมิครอน พบแล้ว 5,397 ราย กระจาย 71 จังหวัด

 

หากดูในช่วง พ.ย. 64 ที่ผ่านมา – 9 ม.ค. 65 พบเป็นเดลตา 64.71% โอมิครอน 35.17% ที่เหลือ คือ เบตา 0.03% และ อัลฟา อยู่ที่ 0.10%

 

หากพิจารณาเป็นสัปดาห์ 2-8 ม.ค.65 พบว่า โอมิครอน 70.3% และเดลตา 29.7% จะเห็นได้ว่า พิจารณาเป็นรายสัปดาห์ การแพร่กระจายของโอมิครอน เพิ่มขึ้นตามคาดการณ์ สัปดาห์ล่าสุด มีโอมิครอน 91.3% เป็นการสุ่มตรวจผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ ในขณะที่ โอมิครอน จากผู้ป่วยในประเทศ 57.9%