กระทรวงศึกษาธิการ เปิดไทม์ไลน์ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เด็ก 5-12 ปีเริ่ม1ก.พ.65

20 ม.ค. 2565 | 10:36 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ม.ค. 2565 | 18:06 น.

กระทรวงศึกษาธิการ เปิดไทม์ไลน์การเตรียมความพร้อมการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ในเด็กอายุ 5-12 ปี โดยจะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ในวันที่ 1 ก.พ.65 เป็นต้นไป และเข็มที่ 2 ในวันที่ 26 ก.พ.65 เป็นต้นไป

วันนี้ (20 ม.ค.65) กระทรวงศึกษาธิการ เปิดไทม์ไลน์การเตรียมความพร้อมการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ในเด็กอายุ 5-12 ปี โดยจะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ในวันที่ 1 ก.พ.65 เป็นต้นไป และเข็มที่ 2 ในวันที่ 26 ก.พ.65 เป็นต้นไป โดยมีไทม์ไลน์ดังนี้

 

วันที่12-14 ม.ค.65

 

  • ศธ.แจ้งสถานศึกษาจัดเตรียมรายชื่อและจำนวนนักเรียน (แยกรายจังหวัด/อำเภอ) (1) ระดับอนุบาล อ.1 - อ.3 (2) ระดับประถมศึกษา ป.1 - ป.6 จำแนกกลุ่มที่อายุเกิน 5 ปีขึ้นไปถึงอายุไม่เกิน 12 ปี (11 ปี 11 เดือน 29 วัน)

 

  • สถานศึกษาสำรวจจัดทำบัญชีรายชื่อครูและบุคลากรแยกเป็นกลุ่มที่ยังต้องฉีดวัคซีนให้ครบ 2 เข็มและกลุ่มที่ต้องการเข็มที่ 3 (Booster Dose)

 

  • สธ.กำหนด (1) แบบฟอร์มยินยอมฉีดวัคซีน (2) ลักษณะข้อมูลที่ใช้ลงทะเบียนฉีดวัคซีน (เลข 13 หลัก /ชื่อ-นามสกุล /วันเดือนปีเกิด /โทรศัพท์)

วันที่ 12-17 ม.ค.65

 

  • ศธ. และ สธ. จัดทำคลิป 3+3 นาที สื่อสารสาธารณะ สร้างความเข้าใจข้อดี-ข้อเสียการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กอายุ 5 - ไม่เกิน 12 ปี (Presenter: ศ.นพ.อุดม ศ.นพ.ประสิทธิ์ รศ.นพ.ทวี รศ.พญ.กุลกัลยา นพ.สราวุฒิ) และเผยแพร่ในสื่อต่างๆ

 

วันที่12-20 ม.ค.65

 

  • สธ.ส่งแบบฟอร์มตามข้อ 3 และ ศธ.นำส่งแก่สถานศึกษาต่าง ๆ

 

  • ศธ. และ สธ. จัดประชุมออนไลน์กับสถานศึกษาในสังกัดซักซ้อมเตรียมการสื่อสารข้อมูลแก่ผู้ปกครองและชุมชน (1-3 ครั้ง)

 

วันที่17-24 ม.ค.65

 

  • สถานศึกษาเริ่มจัดประชุมสื่อสารข้อมูลสร้างความเข้าใจร่วมกับผู้ปกครอง เพื่ออนุญาต/ยินยอมให้นักเรียนอายุ 5 - ไม่เกิน 12 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์

 

  • สถานศึกษาจัดทำรายชื่อและจำนวนนักเรียนตามข้อ 1 (1) (2) (3) แล้วเสร็จ

 

วันที่21-25 ม.ค.65

 

  • สถานศึกษาจัดประชุมหารือเพื่อรับการแจ้งความประสงค์จากผู้ปกครองให้นักเรียนอายุ 5 - ไม่เกิน 12 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีน

วันที่25-26 ม.ค.65

 

  • สถานศึกษานำส่งรายชื่อและจำนวนนักเรียนที่ประสงค์จะฉีดวัคซีนให้แก่ ผอ.สพป.หรือ ศธจ. และนำส่งบัญชีรายชื่อครูและบุคลากรที่ต้องการฉีดวัคซีนเพิ่ม

 

วันที่ 27-28 ม.ค.65

 

  • ศธจ.ประชุมร่วม ผอ.สพป. และหน่วยงานการศึกษาอื่นในจังหวัด สอบทานสรุปข้อมูลนักเรียนอายุ 5 - ไม่เกิน 12 ปี ที่ประสงค์จะฉีดวัคซีน แล้วนำรายชื่อส่งต่อสาธารณสุขจังหวัด

 

วันที่29 ม.ค.65

 

  • ศธจ.ประชุมวางแผนการรับวัคซีนและกำหนดการกระจายจุดฉีดวัคซีนรายวัน แต่ละพื้นที่ (School based) และวิธีการบันทึกข้อมูล

 

วันที่30-31 ม.ค.65

 

  • ศธจ.จัดประชุมร่วม ศธจ. ผอ.สพป. และ ผอ.สถานศึกษาในจังหวัด แจ้งแผนกำหนดการฉีดวัคซีนให้นักเรียน (สถานที่และจำนวนรายวัน) และกำหนดการฉีดวัคซีนแก่ครูและบุคลากรส่วนที่เหลือ

 

วันที่1 ก.พ.65

 

  • เริ่มการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ให้นักเรียนอายุ 5 - ไม่เกิน 12 ปี

 

วันที่26 ก.พ.65

 

  • เริ่มการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้นักเรียนอายุ 5 - ไม่เกิน 12 ปี

 

กระทรวงศึกษาธิการ เปิดไทม์ไลน์ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เด็ก 5-12 ปีเริ่ม1ก.พ.65

 

ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เปิดเผยภายหลังการประชุมศบค.ชุดใหญ่ถึงแผนการบริการฉีดวัคซีนเด็กอายุ 5-11 ปี ที่มี 7 กลุ่มโรคเรื้อรังและนักเรียนระดับชั้น ป.5-6

 

โดยในล็อตแรก จัดสรรให้สถานพยาบาลสำหรับกลุ่มอายุ 5-11 ปี ที่เป็นโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ไม่สามารถฉีดในสถานศึกษาได้ โดยต้องให้กุมารแพทย์เป็นผู้พิจารณา ล็อตถัดไป ดำเนินการผ่านระบบสถานศึกษา จัดสรรให้เด็กนักเรียนระดับชั้น ป.6 ในทุกจังหวัดเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นจัดสรรให้นักเรียนชั้นปีอื่นตามลำดับ

 

ทั้งนี้คำแนะนำการฉีดวัคซีนสูตรฝาสีส้ม จากราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย เด็กอายุ 5-11 ปี ให้ฉีดวัคซีนชนิดไฟเซอร์ สูตรเด็ก (ฝาส้ม) ขนาด 10 ไมโครกรัม ปริมาณ 0.2 มล. เข้ากล้ามเนื้อ 2 ครั้ง ห่างกัน 3-12 สัปดาห์ โดยระยะห่างจะดีกว่า 3-4 สัปดาห์ เพราะได้รับระดับภูมิคุ้มกันที่สูงกว่า และผลข้างเคียงน้อยกว่า