ปลดล็อก“กัญชา”พ้นยาเสพติด บอร์ดป.ป.ส.ไฟเขียวชาวบ้านปลูกได้แค่จดแจ้ง

25 ม.ค. 2565 | 13:48 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ม.ค. 2565 | 20:55 น.

บอร์ดป.ป.ส.ไฟเขียวปลดล็อก “กัญชา กัญชง” พ้นยาเสพติด  “อนุทิน”เผยลงนามมีผลใน 120 วันหลังประกาศราชกิจจานุเบกษา ชงร่างกฎหมายเข้าสภาพรุ่งนี้ ชาวบ้านปลูกได้เพียงแค่จดแจ้ง

วันนี้(25 ม.ค.65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อพิจารณาร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้กัญชา กัญชง พ้นจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นต้น

 

นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้กัญชา กัญชง พ้นจากยาเสพติด ให้โทษประเภท 5 ตามที่คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษเสนอมา ซึ่งร่างดังกล่าว จะมีการระบุชื่อยาเสพติดที่ยังคงอยู่ในประเภท 5 ประกอบด้วย ฝิ่น เห็ดขี้ควาย ส่วนสกัดของกัญชา ที่มีสาร ทีเอชซี เกิน 0.2% ซึ่งหากจะปลดล็อกส่วนสกัดของกัญชา ก็จำเป็นต้องออกข้อกำหนดควบคุมและให้เกิดความมั่นใจว่า จะนำมาใช้ทางการแพทย์ การศึกษาวิจัย อุตสาหกรรม และการใช้ทางสุขภาพ หรือผลิตภัณฑ์อาหาร ไม่ใช่นำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การเสพเพื่อให้มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท

นายอนุทิน กล่าวว่า วันที่ 26 ม.ค.นี้ พรรคภูมิใจไทย จะยื่นร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. … ต่อสภาฯ ซึ่งหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากส.ส.ทุกคน โดยจะเร่งให้กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้หลังมีประกาศในราชกิจจานุเบกษา 120 วัน 

 

จากนี้เลขาธิการ ป.ป.ส.จะนำผลการประชุมทั้งหมดไปประมวลผล เมื่อยืนยันผลกลับมา ก็จะมีการถอนกัญชาออกจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ถือเป็นเรื่องดี เพราะเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่จะสนับสนุนพืชกัญชง กัญชา เพื่อใช้ทางการแพทย์ การวิจัยและการศึกษา อีกทั้งยังเป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ที่ให้เร่งการนำพืชกัญชามาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน

ส่วนเรื่องของความห่วงใยจากนานาชาตินั้น นายอนุทิน กล่าวว่า มีข้ออธิบายอยู่แล้ว เพราะเรานำมาใช้ในทางการแพทย์ ดังนั้นทางกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องแจ้งไปยังทูตไทยในแต่ละประเทศให้ชี้แจงผู้ที่สงสัยต่อไป อย่างไรก็ตาม การประชุมวันนี้คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน และประเทศเป็นหลัก และทุกหน่วยงานเห็นพ้องต้องกัน

 

“ขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุน และจากนี้ไปขอความร่วมมือให้นำไปใช้ในสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่าใช้ในทางที่เกิดโทษ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข จะวิจัยและต่อยอดเพื่อใช้กัญชาให้เกิดประโยชน์สูงสุด” นายอนุทิน กล่าว

 

เมื่อถามว่าประชาชนทั่วไปจะสามารถปลูกกัญชาได้เมื่อใด นายอนุทิน กล่าวว่า ดีที่สุดต้องทำตามกฎหมาย คือต้องรอให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ก่อน จากนี้คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ต้องไปหาแนวทางเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการใช้กัญชา และไม่ให้เกิดการตีความ เรารอมาขนาดนี้แล้วและทำจนสำเร็จ จากนี้ต้องไม่มีใครไปตีความอีก เราปลดมาขนาดนี้แล้วขอให้รออีกนิดหนึ่ง ทำตามกฎหมายดีที่สุด

 

ส่วนเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ คนที่ปลูกกัญชาได้จะเป็นเฉพาะวิสาหกิจชุมชนหรือประชาชนทั่วไปสามารถปลูกได้ด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า “จากนี้ไปจะสามารถปลูกได้ง่ายแล้ว แต่ต้องจดแจ้งก่อน และต้องปลูกตามจำนวนที่กำหนด และต้องไม่นำไปสกัดเพื่อใช้ในทางอุตสาหกรรม หากจะสกัดเป็นน้ำมันต้องขออนุญาต นี่คือ กระบวนการควบคุมการใช้กัญชา ถ้าชาวบ้านจะปลูกในบ้านก็จดแจ้งได้เลย ช่วงเวลานี้เป็นช่วงต้องเร่งทำกฎหมายเพื่อคุ้มครองชาวบ้าน ไม่ให้มีคนหัวหมอตีความว่า คนไหนทำผิดหรือไม่ทำผิด และการจดแจ้งในที่นี้คือเรียนมาเพื่อทราบ ไม่ใช่เรียนมาเพื่ออนุมัติ”

 เมื่อถามว่ากฎหมายดังกล่าวจะเสร็จสิ้นในสมัยประชุมนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า วันที่ 26 ม.ค.จะเสนอร่างกฎหมาย โดยตนลงนามไปแล้วเป็นคนแรก