น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
ด่วนและต้องติดตาม !! พบไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ ( NeoCoV) เข้าเซลล์มนุษย์ได้ ลักษณะคล้ายไวรัสก่อโรค MERS ซึ่งรุนแรงกว่า SARS 3 เท่าตัว
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น ได้ค้นพบไวรัสโคโรนา (Corona Virus) ชนิดใหม่ในค้างคาวที่ประเทศแอฟริกาใต้ เรียกชื่อว่า NeoCoV
โดยมีลักษณะสารพันธุกรรมที่ใกล้เคียงมากกับไวรัสก่อให้เกิดโรค MERS มาก จนมีโอกาสที่จะเรียกว่า MERS-CoV-2
ซึ่งไวรัสโคโรนาลำดับ 7 ที่ก่อโรคโควิด-19 (Covid-19) ในปัจจุบัน ก็มีสารพันธุกรรมที่ใกล้เคียงมากกับไวรัสก่อโรค SARS จนเรียกว่า SARS-CoV-2 มาแล้ว
องค์การอนามัยโลกได้ออกมาให้ความเห็นว่า ไวรัสใหม่ดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่จะต้องเร่งศึกษาหาข้อมูลอย่างใกล้ชิดโดยเร็วต่อไป เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่มากขึ้น
ทำไมการค้นพบครั้งนี้ จึงเป็นเรื่องใหญ่และเป็นที่ตื่นเต้นกันมาก ตลอดจนมีความจำเป็นที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะทำให้เกิดผลกระทบกับมนุษยชาติอย่างไร
ลำดับที่ 1-4 ก่อให้เกิดโรคหวัด
ลำดับที่ 5 ก่อให้เกิดโรค SARS
ลำดับที่ 6 ก่อให้เกิดโรค MERS
ลำดับที่ 7 ก่อให้เกิดโรค COVID-19
รายละเอียดเกี่ยวกับโรค SARS และ MERS คือ
SARS ระบาดในปี 2003 (พ.ศ. 2546) มีผู้เสียชีวิต 10%
MERS ระบาดในปี 2012 (พ.ศ. 2555) มีผู้เสียชีวิต 30%
COVID-19 ระบาดในปี 2019 (พ.ศ. 2562) เริ่มต้นมีเสียผู้เสียชีวิต 5% ปัจจุบันผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1.53% โดยมีผู้เสียชีวิต 5.67 ล้านคน จากผู้ติดเชื้อ 371 ล้านคน
ถ้าไวรัสโคโรนาชนิดใหม่สามารถก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ขึ้นมาได้จริง ก็อาจเรียกชื่อว่า COVID-22
ถ้าคำนวณตามสัดส่วนของโรค SARS และ MERS ที่รุนแรงขึ้น 3 เท่า ก็อาจจะทำให้ COVID-22 มีผู้เสียชีวิตมากกว่า COVID-19 ถึง 3 เท่า
เช่น ในปัจจุบัน โควิด-19 เสียชีวิต 5.67 ล้านคน ถ้าเป็นโควิด-22 ก็จะเสียชีวิตมากถึง 17 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวนี้ยังมีความไม่แน่นอนส่วนหนึ่ง ที่จำเป็นจะต้องศึกษาค้นคว้ากันอย่างเร่งรีบ
ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้ร่วมกับหน่วยงานระดับโลกอีกหลายหน่วยงานเช่น องค์การระดับโลกเรื่องสุขภาพสัตว์ องค์การอาหารและเกษตรโลก ตลอดจนโครงการสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ
เพื่อที่จะรีบหาข้อมูลและสรุปให้ได้โดยเร็วที่สุดว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ มีโอกาสก่อโรคโควิดในมนุษย์มากน้อยเพียงใด