น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
โควิดระลอกใหม่นี้ อาจเกิดเป็น 2 พีค เหตุจากสายพันธุ์ย่อย BA.2
จากข้อมูลการระบาดของโควิดในช่วงที่ผ่านมา ของประเทศไทยเราเองก็อยู่ในทำนองเดียวกับของโลก คือในแต่ละระลอกหรือเวฟ มักจะมีเพียงหนึ่งพีคหรือหนึ่งจุดสูงสุด
ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน ได้แก่
เนื่องจากการระบาดในอดีต แต่ละระลอก ไวรัสแต่ละสายพันธุ์นั้น แม้จะมีสายพันธุ์ย่อยอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก
ผู้ติดเชื้อในแต่ละระลอก จึงมีจุดสูงสุดหรือพีคเพียงพีคเดียว เป็นส่วนใหญ่
แต่สำหรับไวรัสโอมิครอน พบว่าสายพันธุ์ย่อยที่สอง (BA.2) แพร่เร็วกว่าสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่ง (BA.1) มากถึง 50%
ทำให้เริ่มสังเกตเห็นลักษณะการติดเชื้อที่ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งพบสายพันธุ์ย่อยที่สองมากขึ้น และได้แซงหน้าสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่ง ในจังหวะที่จำนวนผู้ติดเชื้อจากสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่งเริ่มลดลง
ซึ่งอาจจะทำให้เกิดพีคที่สองจาก BA.2 ได้ ลักษณะเช่นเดียวกันกับที่เดนมาร์ก ก็มีสายพันธุ์ BA.2เป็นหลักแล้ว
ดังนั้นถ้าประเทศใด ที่การระบาดของโอมิครอนยังไม่ถึงพีค แม้มีสายพันธุ์ย่อยที่สองเข้ามาเป็นสายพันธุ์เด่น ก็จะเดินหน้าขึ้นเป็นพีคเดียว แต่เป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ขึ้นสูงกว่าสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่ง
แต่ถ้าประเทศใด ที่สามารถคุมสถานการณ์ได้ดีจากสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่ง ทำให้มีการชะลอตัวหรือเริ่มเป็นขาลงแล้ว เช่นที่แอฟริกาใต้
อาจจะได้เห็นการเพิ่มของผู้ติดเชื้อเป็นพีคที่สองในระลอกเดียวกันจากสายพันธุ์ย่อยที่สอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามีจังหวะการผ่อนคลายในการควบคุมโรค ทั้งจากภาครัฐและภาคประชาชน
ที่อาจจะเร็วเกินไป หรือมากเกินไป เมื่อพบสายพันธุ์ย่อยที่สองเข้า ก็อาจจะทำให้เกิดพีคใหม่ได้
เป็นความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องมีมาตรการผ่อนคลายลง เพื่อให้มิติทางเศรษฐกิจและสังคมสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยได้รับผลกระทบที่ไม่มากนัก
แต่จังหวะเวลาและระดับของการผ่อนคลาย เป็นเรื่องที่จะต้องใช้ความสามารถอย่างมาก ต้องทำได้ถูกจังหวะเวลา พอเหมาะพอดีกับไวรัส จึงจะได้ผลดีแบบสมดุล ระหว่างมิติเศรษฐกิจและสังคม กับมิติทางด้านสาธารณสุข