สูตรฉีดวัคซีนโควิด mRNA 3 รูปแบบให้ผลกระตุ้นภูมิต้านทานแตกต่างกันอย่างไร

04 ก.พ. 2565 | 02:18 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.พ. 2565 | 09:22 น.

สูตรฉีดวัคซีนโควิด mRNA 3 รูปแบบให้ผลกระตุ้นภูมิต้านทานแตกต่างกันอย่างไร อ่านครบจบที่นี่ หมอยงเผยผลทดลงฉีดทั้งครึ่งโดส เต็มโดส และฉีดเข้าผิวหนัง

การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยปัจจุบันมีทางเลือกให้กับผู้ฉีดแล้ว โดยเฉพาะเข็มที่ 3 หรือที่เรียกว่าเข็มกระตุ้น ยกตัวอย่างเช่นที่ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ประกาศเปิดให้บริการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไฟเซอร์ ซึ่งเป็น mRNA เข็ม 3 และ 4 โดยสามารถเลือกได้ 3 รูปแบบตามความสมัครใจภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ 

 

ในการจะฉีดเข้ากล้ามเนื้อแบบเต็มโดส ขนาด 30 ไมโครกรัม หรือแบบครึ่งโดส ขนาด 15 ไมโครกรัม หรือฉีดเข้าชั้นผิวหนัง ขนาด 10 ไมโครกรัม

 

ล่าสุดศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความว่า
วัคซีนโควิด การให้วัคซีน mRNA ขนาดครึ่งโดส เต็มโดส และเข้าใต้ผิวหนัง

 

หมอยง ระบุว่า การใช้วัคซีน mRNA ในเข็มกระตุ้น มีการลดขนาดลงเหลือเพียงครึ่งเดียว เช่น Moderna ที่ใช้ในประเทศทางตะวันตก ก็กระตุ้นเพียงครึ่งเดียว ( 50 ไมโครกรัม)

วันนี้จึงอยากให้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ ถึงแม้ว่ารายละเอียดยังมีอีกมาก 
ทางศูนย์ได้ทำการศึกษา

 

  • การฉีดวัคซีน mRNA (Pfizer) เข้าใต้ผิวหนัง ขนาด  10 ไมโครกรัม 

 

  • ฉีดเข้ากล้ามขนาด 15 ไมโครกรัม 

 

  • และ 30 ไมโครกรัม ตามหลังผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายมาก่อน 2 เข็ม 

 

 

ระดับภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีน

 

และแสดงให้เห็นการให้วัคซีนในขนาดปกติ 30 ไมโครกรัม ตามหลังได้วัคซีนชุดต่างๆ 2 เข็มมาแล้ว 

 

ส่วนวัคซีน Moderna ได้มีการศึกษาอย่างละเอียดถึงการกระตุ้น ด้วยขนาดปกติ 100 ไมโครกรัม 

 

และขนาดครึ่งหนึ่งคือ 50 ไมโครกรัม จะเห็นว่าภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นไม่แตกต่างกันมากไม่ว่าจะเป็นการตรวจ วัดระดับภูมิต้านทาน การตรวจปฏิกิริยากับเชื้อไวรัสจริง ต่อสายพันธุ์เดลตาและสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron)

ขณะนี้ศูนย์ฉีดวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข เช่นที่บางซื่อ ก็มีการบริการการฉีดวัคซีน ขนาดต่างๆ ของวัคซีน Pfizer เช่น 10 ไมโครกรัมเข้าผิวหนัง  15 ไมโครกรัมเข้ากล้ามเนื้อ และ 30 ไมโครกรัมเข้ากล้ามเนื้อ 
 

การใช้วัคซีนขนาดน้อย เพื่อหวังว่าอาการข้างเคียงต่างๆจะได้น้อยลงไปด้วย และภูมิต้านทานที่เกิดขึ้น 

 

ระดับภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีน

ขณะนี้มีการเปิดกว้างให้เลือก ว่าจะฉีดวัคซีนกระตุ้นขนาดเท่าใด ด้วยวิธีใด การตัดสินใจอยู่ด้วยความสมัครใจในการกระตุ้นด้วยวัคซีน

 

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทยนั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 64 - 2 ก.พ. 65 มีการฉีดวัคซีนสะสมแล้วทั้งหมด 115,820,553 โดส แบ่งเป็น

 

  • เข็มที่ 1 จำนวน 52,384,810 ราย
     
  • เข็มที่ 2 จำนวน 48,735,311 ราย
     
  • เข็มที่ 3 จำนวน 14,700,432 ราย