นับแต่ปี 2522 ที่เริ่มให้มีงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จนเป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่เดือนกุมภาพันธ์ประจำทุกปีของชาวลพบุรี ที่ฟื้นบรรยากาศยิ่งใหญ่อลังการย้อนยุคประวัติศาสตร์ กลับมาให้ปรากฎในยุคปัจจุบัน โดยชาวลพบุรีพร้อมใจนุ่งโจง ห่มสไบ แต่งกายด้วยชุดไทยกันทั้งเมือง เป็นที่ตื่นตาของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ
แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ช่วง 2-3 ปีมานี้ ส่งผลกระทบหนัก จังหวัดลพบุรีไม่สามารถจัดงานได้อย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อของจังหวัด ต่างห่วงใยต่อการแพร่ระบาดของโรค การจัดงานที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมากไม่สามารถดำเนินงานได้ โดยเฉพาะภายในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ที่เคยมีกิจกรรมแสงสีเสียง และมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมและถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก จึงต้องงดไป ทำให้การท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรีซบเซาไปอย่างมาก
ล่าสุดปีนี้ นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เปิดเผยหลังการประชุมจัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ครั้งที่ 3/2565 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานและปัญหาอุปสรรคของหน่วยงานต่าง ๆ ที่รับผิดชอบการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ว่า ปีนี้จะปรับรูปแบบเป็นวิถีใหม่ (New Normal) เน้นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราชให้ยิ่งใหญ่แทน โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย การรณรงค์แต่งไทยของชาวลพบุรี ระหว่างวันที่ 17 ม.ค.ถึงวันที่ 18 ก.พ. 2565 พิธีบวงสรวงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช, รำบวงสรวงเทิดพระเกียรติฯ
พร้อมดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 งดการจัดมหรสพและการขายสินค้าต่าง ๆ ที่เป็นแบบคาราวานสินค้า แต่จะส่งเสริมให้คนจังหวัดลพบุรีเป็นคนขายสินค้ามากกว่า
ช่วงวันที่ 11-20 ก.พ. 2565 จะประดับตกแต่งไฟให้มีแสงสีสวยงาม บริเวณพระราชฐานชั้นนอกของพระนารายณ์ราชนิเวศน์ รวมทั้งโบราณสถานและสถานที่สำคัญของจังหวัดลพบุรี ประกอบไปด้วยพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (วงเวียนเทพสตรี) เทวสถานปรางค์แขก บ้านหลวงรับราชทูต(บ้านวิชาเยนทร์) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ศาลลูกศร วัดปืน สถานีรถไฟลพบุรี วงเวียนศรีสุริโยทัย (วงเวียนสระแก้ว) และศาลากลางจังหวัดลพบุรี เป็นต้น
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต้องมีผลการฉีดวัคซีนมาแล้ว 2 เข็ม และผู้รับผิดชอบพื้นที่ จะต้องดำเนินการตามมาตรการคัดกรองของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด การถ่ายภาพตามจุดต่าง ๆ เช่น พระนารายณ์ราชนิเวศน์ และโบราณสถานนั้น สามารถใส่เฟซชิลด์ได้ แต่หากมีการเดินหรือเคลื่อนไหวจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ให้ใส่หน้ากากอนามัยด้วย เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
ขณะที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ลพบุรี จัดให้มีการจัดเสวนาทางวิชาการ “สรรพตำราและองค์ความรู้บนแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช” และในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ช่วงเช้าจังหวัดจะจัดพิธีทำบุญตักบาตรและพิธีบวงสรวง ที่พระนารายณ์ราชนิเวศน์
ช่วงบ่ายจะจัดพิธีเทิดพระเกียรติถวายพานพุ่ม และรำบวงสรวงถวายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช วงเวียนเทพสตรี ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรี โดยจะมีนางรำกว่า 3, 500 คน เดินทางมาจากทุกอำเภอในจังหวัดลพบุรี ด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ
โดยนางรำทุกคนต้องมีผลการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม และตรวจ ATK ภายใน 48 ชั่วโมง จำนวน 2 ครั้ง คือในวันซ้อมใหญ่และวันรำจริง ซึ่งได้อนุโลมให้ใส่เฟซชิลด์ได้ เพื่อความสวยงามขณะที่ร่ายรำ
ต่อข้อกังวลถึงการปรับตัวของราคาสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม ตลอดจนที่พักในช่วงการจัดงานนั้น ผู้ว่าฯลพบุรี ย้ำว่า ไม่น่าห่วง เนื่องจากจังหวัดลพบุรีไม่ใช่เป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก ที่พักก็ไม่มีการปรับราคาแต่อย่างใด อีกทั้งพ่อค้าแม่ค้าในลพบุรีส่วนใหญ่ ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยว และช่วยให้เศรษฐกิจของจังหวัดฟื้นตัว จึงไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องนี้
งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี เป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่และจัดต่อเนื่องเป็นประจำ ปีในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งเป็นเดือนพระราชสมภพของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ผู้นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ลพบุรี โดยงานจะมีขึ้นในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ที่จะได้รับการ ตกแต่งประดับประดาด้วยแสงไฟที่สวยงาม การแสดงประวัติศาสตร์จินตนาการ ทหารวังเปลี่ยนเวร ตลาดย้อนยุค รวมทั้งมีขบวนแห่จำลองประวัติศาสตร์ความเจริญ ในยุคสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่ชาติตะวันตกเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรี นอกจากนี้ชาวลพบุรีต่างพร้อมใจกัน “นุ่งโจง ห่มสไบ แต่งกายด้วยชุดไทยกันทั้งเมือง” ซึ่งเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ