ฉาวโฉ่ภรรยา‘มัทซ์ ฮุมเมิลส์’นักฟุตบอลดังเยอรมนีถูกทำร้ายร่างกายในไทย

10 ก.พ. 2565 | 05:06 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.พ. 2565 | 13:35 น.

‘เคธี ฮุมเมิลส์’ภรรยา ‘มัทซ์ ฮุมเมิลส์’นักฟุตบอลดัง ทีมชาติเยอรมนี ‘โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์’ เผยถูกทำร้ายร่างกาย ระหว่างที่เดินทางมาถ่ายทำรายการทีวีในไทย 3 สัปดาห์ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ยันไม่พบว่ามีเหตุ ในภูเก็ตแต่อย่างใด โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่พังงา

เคธี ฮุมเมิลส์’ (Cathy Hummels) วัย 34 ปี ภรรยา ‘มัทซ์ ฮุมเมิลส์’ (Mats Hummels) นักฟุตบอลดัง ทีมชาติเยอรมนี กองหลังของ ‘โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์’ ได้ออกมาเปิดเผยถึงประสบการณ์อันเลวร้าย ระหว่างที่เดินทางมาถ่ายทำรายการทีวีในประเทศไทยเป็นเวลา 3 สัปดาห์

 

เธอถูกคนร้ายทำร้ายร่างกาย ฟาดที่ศีรษะหลายครั้ง ขณะที่อยู่คนเดียวบริเวณชายหาดในภูมิภาคภูเก็ต และถูกขโมยโทรศัพท์มือถือ

“ฉันโดนตีที่ศีรษะจากด้านหลัง คนร้ายตีฉันหลายครั้ง แล้วฉันก็เริ่มโต้กลับ พร้อมกับตะโกนว่า เอาสิ่งที่คุณต้องการไปเลย และขอให้ปล่อยฉัน จากนั้นคนร้ายก็วิ่งหนีไป ฉันรวบรวมกำลังทั้งหมดวิ่งกลับไปที่โรงแรม”

 

ฉาวโฉ่ภรรยา‘มัทซ์ ฮุมเมิลส์’นักฟุตบอลดังเยอรมนีถูกทำร้ายร่างกายในไทย

 

ทั้งนี้ เธอไม่มีเงินอยู่ที่ตัว คนร้ายจึงได้คว้าโทรศัพท์มือถือของเธอก่อนวิ่งหนีไป จากนั้นเมื่อถึงโรงแรม เธอได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และบินไปที่ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ในวันเดียวกันทันที

หลังจากที่เธอเปิดเผยเรื่องราวนี้ ทำให้กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก  และเกิดเสียงวิจารณ์อย่างมาก ส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวที่ไม่ปลอดภัยของประเทศไทย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทางการไทยและเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

ฉาวโฉ่ภรรยา‘มัทซ์ ฮุมเมิลส์’นักฟุตบอลดังเยอรมนีถูกทำร้ายร่างกายในไทย

 

ล่าสุดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต โพสต์ข้อความ ระบุว่าจากกรณีดังกล่าว ภ.จว. ภูเก็ตได้สั่งการให้สถานีในปกครองตรวจสอบ ปรากฏว่าไม่พบว่ามีเหตุ หรือรับแจ้งเหตุดังกล่าวแต่อย่างใด จึงขออนุญาตเรียนทุกท่านที่อ่านข่าว ได้รับทราบว่า จังหวัดภูเก็ต ภายใต้การดูแลของตำรวจในยุคที่ท่าน พล.ต.ต. เสริมพันธุ์ ศิริคง เป็น ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ขอรับรองว่าภูเก็ตยังคงปลอดภัยสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยวเสมอ

 

ขณะที่พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 ชี้แจงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ จ.พังงา ในพื้นที่ สภ.โคกกลอย ที่มีการสั่งการให้ชุดสืบสวน ระดมตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลัง และหาเบาะแสแฟ้มประวัติอาชญากรรมในพื้นที่ทันที

 

โดยขอยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะเร่งสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้เร็วที่สุด เพราะคดีดังกล่าว ทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียภาพลักษณ์อย่างมาก