วันมาฆบูชา ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ผู้บริโภคหลายคนมักจะนึกถึงการเข้าวัดทำบุญ ทำทาน และนิยมเลือกซื้อสินค้าประเภท ชุดสังฆทาน และ ชุดไทยธรรม เพื่อนำไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์
แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบวิธีการเลือกซื้อชุดสังฆทานหรือการซื้อของมาจัดชุดสังฆทานเองให้ได้บุญอย่างแท้จริงนั้นเป็นอย่างไร
นั่นเพราะปัจจุบันยังมีผู้ผลิตและผู้จำหน่ายบางรายฉวยโอกาสในการบรรจุสินค้าที่หมดอายุลงไปในชุดสังฆทานและนำไปวางขายโดยไม่ติดฉลาก เมื่อผู้บริโภคซื้อโดยไม่ได้สังเกตว่ามีฉลากติดอยู่หรือไม่จึงทำให้เป็นการถวายชุดสังฆทานที่ได้บาปแทนที่จะได้บุญ ถือได้ว่าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคเป็นอย่างมากและเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายไม่ควรกระทำ
ที่ผ่านมามีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อ โซเชียลเกี่ยวกับกรณีสินค้าที่นำมาใส่ในถังสังฆทานไม่มีคุณภาพ กรณีดังกล่าว ถือว่าอยู่ภายใต้กฎหมายของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กำหนดว่า
ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องมีการจัดทำฉลากสินค้าให้ถูกต้องตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ 23 (พ.ศ.2550) เรื่อง ให้ ชุดสังฆทาน และชุดไทยธรรม เป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก
ทั้งนี้ ตามกฎหมาย กำหนดข้อความที่ต้องมีการระบุใน ชุดสังฆทาน หรือชุดไทยธรรม (ชุดไทยทาน) จะต้องมีการระบุรายการสินค้าไว้ในฉลาก ดังนี้
หากร้านค้าขายชุดสังฆทาน โดยไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่การแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้องกฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษดังนี้
นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา สคบ. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้จำหน่ายชุดสังฆทานและ ชุดไทยธรรม เพื่อตรวจสอบแนะนำให้ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายให้จัดทำฉลากของสินค้าให้ถูกต้อง ตามกฎหมาย เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นในการตัดสินใจเลือกซื้อชุดสังฆทานและขุดไทยธรรมไปถวาย พระภิกษุสงฆ์เพื่อทำบุญเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล
อย่างไรก็ตามหากผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจหรือพบว่า ชุดสังฆทาน และชุดไทยธรรม ไม่มีการจัดทำฉลาก หรือมีการจัดทำฉลากแต่ฉลากสินค้านั้นไม่ถูกต้องสามารถร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสไปยัง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคผ่านช่องทางต่าง ๆ อาทิ