1 มีนาคม 2565 - ยังคงเป็นปริศนา สำหรับบทสรุป คดีแตงโม-นิดา พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทเสียชีวิต ระหว่างออกไปล่องเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมเพื่อน กระติก - ไฮโซปอ-จ๊อบ -แซน และ เบิร์ด ซึ่งตำรวจเตรียมนำเพื่อนแตงโมทั้ง 5 คน เข้าเครื่องจับเท็จ เค้นความจริง หลังจากแม่แตงโม เพื่อนในวงการ และสังคม คาแคลงใจพฤติกรรมและคำพูดหลายอย่างของคนที่อยู่บนเรือ ปักธงไม่มั่นใจว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุ
ทั้งนี้ แม้คดีแตงโม ยังไม่มีบทสรุปถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของแตงโม แต่คดีนี้กลายเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าสนใจหลายๆด้าน และมีคำถามตามมา หากตนเองเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน พลัดเรือ - ตกน้ำ หรือ ไปพบเจอคนตกน้ำ (ในเหตุการณ์ปกติ) ในลักษณะเดียวกัน จะมีวิธีช่วยเหลือตัวเอง เอาตัวรอดเบื้องต้นได้อย่างไรบ้าง
ล่าสุด ทัพเรือภาคที่ 3 โพสต์ข้อมูลให้ความรู้ ถึงวิธีการช่วยเหลือตนเองเมื่อตกน้ำ เทียบเหตุการณ์จำลอง ทหารที่สวมใส่เครื่องแบบและรองเท้าคอมแบท ในทะเลที่ไกลจากฝั่ง หรือมีคลื่นลมแรง โดยระบุประการแรก อย่าตระหนกและตั้งสติให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งพยายามลอยตัวด้วยท่าต่างๆ เหล่านี้ โดยใช้พลังงานให้น้อยที่สุด รอการช่วยเหลือต่อไป
3 ท่าลอยตัวเอาตัวรอดเมื่อตกน้ำ
ขณะหลังจากวานนี้ บุคคลที่อยู่บนเรือ วันเกิดเหตุแตงโมพลัดตกน้ำ 4 ราย ซึ่งประกอบไปด้วย กระติก (เพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัว) , แซน , จ็อบ และ ไฮโซปอ ร่วมตอบข้อซักถามใน รายการ โหนกระแส ช่อง 3 โดยมีพิธีกร หนุ่ม กรรชัย สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือก่อนดาราสาวเสียชีวิต
ซึ่งบางช่วงบางตอน หนุ่มกรรชัยเค้นกระติก ถึงความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนรัก จากเหตุกระแสสังคมโจมตี ว่าเจ้าตัว นิ่งนอนใจเกินไป ต่อการหายไปของเพื่อนรัก และไม่อยู่รอติดตามการค้นหาตัวแตงโม แต่กลับบ้านไปหาลูก โดยพิธีกรแนะ เพื่อนที่ดีควรช่วยเหลือเมื่อเพื่อนตกอยู่ในภัยอันตราย
"พี่เชื่อ คนอย่างแตงโม ถ้าเพื่อนเค้าตกน้ำ เค้าจะอยู่รอจนกว่าจะเจอ หรือ เค้าเองจะกระโดดลงไปในน้ำด้วย"
เพื่อนตกน้ำควรกระโดดไปช่วยไหม ?
ล่าสุด โค้ชเป้ง สาธิก ธนะทักษ์ นักวิทยาศาสตร์การกีฬา ผู้ฝึกสอนการออกกำลังกาย แสดงความเห็นและให้ความรู้เกี่ยวกับการช่วยเหลือคนตกน้ำ ในแฟนเพจ Ez2fit ว่า คนทั่วไป เมื่อเจอเหตุการณ์คนตกน้ำ มักจะกระโดดลงไปช่วย หรือ ถ้ามีคนตกน้ำแล้วไม่กระโดดลงไปช่วย(ในกรณีไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว) คนที่อยู่บนฝั่ง จะกลายเป็นคนผิด จะต้องมีความรู้สึกผิดติดตัวตลอดไป
แต่ตามทฤษฎีแล้ว สิ่งสุดท้ายที่ควรทำ หรือไม่ทำเลยจะดีกว่า นั่นก็คือ การกระโดดลงไปช่วยเพื่อนที่จมน้ำนั่นเอง เพราะในออสเตรเลียทุกปีมีคนเสียชีวิตราว 5 คน สาเหตุเพราะกระโดดลงไปช่วยคนตกน้ำ ซึ่งนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ขัดกับสามัญสำนึกของเราว่าเมื่อมีคนตกน้ำสิ่งแรกที่ควรทำคือโดดลงไปช่วย แต่การรักษาชีวิตตนเองก่อนเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า เนื่องจากถ้าเราไม่มีความรู้ความชำนาญ ร่างกายที่แข็งแรงพอ การกระโดดลงไปช่วยคนจมน้ำก็อาจจะกลายเป็นการเพิ่มผู้เสียชีวิตไปอีกคน
โดยสาเหตุสำคัญที่เราไม่ควรกระโดดตัวเปล่าๆลงไปช่วย มีหลายปัจจัยได้แก่
ทั้งนี้ ในกรณีที่จำเป็นต้องลงไปช่วย กองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค ก็ได้แนะนำว่า ห้ามให้คนตกน้ำสัมผัสคนช่วยเหลือ โดยคนที่ลงไปช่วยควรลงไปต่อเมื่อมีอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ติดตัวไปด้วยและใช้อุปกรณ์นั้นโยนให้คนตกน้ำจับ
โดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ก็ได้ให้คำแนะนำว่า การกระโดดลงน้ำไปช่วยนั้น เป็นวิธีการที่ต้องพึงระวังอย่างมาก และผู้ช่วยเหลือต้องมีประสบการณ์ เพราะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากจากการช่วยเหลือคนตกน้ำด้วยวิธีนี้ ซึ่งคำแนะนำในการให้ความช่วยเหลือมีหลักง่ายๆ
4 วิธี คือ “ยื่น โยน พาย ลาก”
ทั้งนี้ ในรายงานสถานการณ์การจมน้ำขององค์การอนามัยโลก มีรายงานว่าทุกปีมีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำมากถึง 372,000 คน ดังนั้นเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะหน่วยงานรัฐที่จะรณรงค์ สถานศึกษามีการเรียนการสอนการเอาตัวรอดเมื่อจมน้ำ การดูแลของผู้ปกครอง สื่อต่างๆไม่ว่าจะเป็นการทำละคร/ภาพยนต์/รายการควรให้ความรู้ตรงตามหลักวิชาการ และที่สำคัญก็คือการดูแลตนเอง ปฏิบัติตามกฏความปลอดภัยทางน้ำอย่างเคร่งครัด สุดท้ายขอแสดงความเสียใจแก่ผู้สูญเสียทุกคนนะครับ
ที่มาข้อมูล : สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ,เพจทัพเรือภาคที่ 3 ,เพจ Ez2fit,กองป้องกันการบาดเจ็บ