นายกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงการใช้คัยโกเฮ้าส์เป็น “Hospital” ชั่วคราว ว่าเพื่อมาช่วยแบ่งเบาภาระของสถานพยาบาล จึงได้เริ่มต้นด้วยการเสาะหาโรงพยาบาลคู่สัญญามาร่วมดำเนินการเพราะที่ผ่านมาทุกๆโรงพยาบาลมีผู้ป่วยล้นมือ อีกทั้งบุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอต่อความต้องการของโรงพยาบาล ซึ่งทางคัยโกเฮ้าส์โชคดีมาก ที่ทางโรงพยาบาลปิยะเวท รับเป็นคู่สัญญาให้
อีกทั้งยังช่วยทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในการทำการดัดแปลงแต่งเติมสถานที่ ให้มีสภาพที่สามารถรองรับผู้ป่วยโควิด-19 เป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งใช้ระยะเวลาการปรับปรุงดังกล่าวประมาณ 3 เดือน จึงได้รับใบอนุญาตมาในปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา และทางคัยโกเฮาส์จึงเริ่มต้นดำเนินการรับประชาชนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่นั้นมา
โดยช่วงแรกของการเริ่มเปิดรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ได้รับผู้ติดเชื้อจากเขตหนองจอกเพียงเขตเดียว เพราะเนื่องจากสถานที่ของคัยโกเฮาส์ ตั้งอยู่ที่เขตหนองจอก ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากนายศิริพงษ์ รัศมี สส.ในพื้นที่ในการเอื้อเฟื้อสถานที่หน้าสำนักงานอีกทั้งยังส่งพนักงานในสำนักงานเข้ามาช่วยเหลือ ในการช่วยคัดกรองผู้ติดเชื้อให้ทุกวัน เป็นเวลากว่าสามเดือน
ด้วยพื้นที่เขตหนองจอก มีพี่น้องประชาชนชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และบ้านพักอาศัยของประชาชนค่อนข้างจะแออัด การแพร่ระบาดจึงรุนแรงและรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ทางบุคลากรทางด้านการแพทย์ที่ทางโรงพยาบาลปิยะเวท ได้ร่วมกับทางพนักงานของคัยโกเฮ้าส์ ในการให้การช่วยเหลือรักษาพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ด้วยจิตอาสาอย่างเข้มแข็งทุกคน และต้องทำงานกันหนักมาก
ด้วยสถานที่ของคัยโกเฮ้าส์ค่อนข้างจะไม่ใหญ่เหมือนโรงพยาบาลสนาม แม้จะมีพื้นที่มากถึง 9 ไร่ แต่ด้วยการก่อสร้างในเบื้องต้น เป็นการก่อสร้างมาเพื่อเป็นบ้านพักคนวัยเกษียณ จึงแบ่งเป็นอาคารต่างๆ ที่มีทั้งห้องเดี่ยว ห้องคู่ ห้องรวม และอาคารวิลล่าที่รองรับครอบครัวไม่เกิน 5 คน ดังนั้นจึงสามารถรองรับผู้ป่วยติดเชื้อได้ทั้งหมดเพีง 170 คนเท่านั้น ระยะเวลาการรักษาตัวประมาณ 10 วัน แล้วแต่อาการของผู้ป่วย ทุกวันจะมีแพทย์และพยาบาลจะเป็นผู้วินิจฉัยให้เท่านั้น
“ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19ที่อยู่ในอาการสีเหลืองหรือสีแดง ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเท่านั้น ดังนั้นหากผู้ป่วยสีเขียวที่เข้ามารักษาตัวที่คัยโกเฮ้าส์มีอาการรุนแรงขึ้น ก็จำเป็นต้องส่งรีเฟอร์ไปยังโรงพยาบาลปิยะเวชต่อไป แต่ที่ผ่านๆมา ต้องขอชมเชยทางบุคลากรทางด้านการแพทย์ ที่ทางโรงพยาบาลปิยะเวทส่งมาประจำการที่คัยโกเฮ้าส์ ที่ทำงานด้วยความอุตสาหะและเต็มความสามารถจริงๆ จึงยังไม่ค่อยมีผู้ป่วยที่เกิดเหตุการณ์ต้องรีเฟอร์ส่งตัวต่อไปทางโรงพยาบาลมาก จะมีเพียงไม่ถึง 2% เท่านั้น”
สำหรับค่าใช้จ่ายสำหรับประชาชนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เข้ามารักษาตัวที่คัยโกเฮาส์ ถ้าหากมีประกันสังคม ตามมาตราที่ 33,39 สิทธิ UCEP ทุกอย่างฟรีหมด รวมทั้งค่าทำ RT-PCR และค่า X-Ray ปอด ค่ายา ประชาชนไม่ต้องจ่ายแม้แต่บาทเดียว ภาครัฐได้จัดสรรงบประมาณมาให้ทั้งหมด โดยผ่านมาทางโรงพยาบาลปิยะเวท แต่ถ้ามีประกันสังคมตามมาตราอื่นๆ ทางเราไม่สามารถรับเข้ามารักษาตัวได้ ต้องไปใช้สิทธิตามที่ท่านมีอยู่เท่านั้น
“เมื่อผู้ป่วยที่มีประกันสังคม ตามมาตราที่ 33,39 สิทธิ UCEP หากพบมีอาการผิดปกติ ให้รีบตรวจเช็คอาการด้วย ATK โดยทันที หากพบว่ามีสองขีดหรือติดเชื้อแล้ว ให้ส่งบัตรประชาชน ผลตรวจที่มีอยู่ ถ้ามีใบประกันสังคมก็จะช่วยร่นเวลาทำงานของเรา (หากไม่มีติดตัว ทางเราจะช่วยเช็คให้ได้) และหมายเลขโทรศัพพ์ของตนเอง ส่งมาให้ทางคัยโกเฮ้าส์โดยด่วน เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ
ให้เตรียมของใช้ประจำตัว เช่นสบู่ แชมพู แปลงสีฟัน ยาสีฟัน ผงซักฟอก ผ้าเช็ดตัว และเสื้อผ้าของตนเอง ใส่กระเป๋าเดินทางไว้ เพื่อรอเดินทางเข้ามารักษาตัวได้เลย แต่ทั้งนี้เนื่องจากทางคัยโกเฮาส์มีบุคลากรที่จำกัด อีกทั้งสถานที่ไม่ใหญ่มากพอจะรองรับได้ และเกรงว่าผู้ป่วยจะไม่สะดวกในการเดินทางมา จึงรับผู้ป่วยเพียงพื้นที่ๆใกล้เคียง”