วันที่ 22 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มติที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือ การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร คราวที่ 17 ออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 และสิ้นสุดในวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ตามที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
โดย เลขาธิการสมช. รายงานต่อครม.ว่า เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 16) ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 และสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2565 เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศ
การดำเนินการที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใกล้จะสิ้นสุดลง สมช. ในฐานะศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 (ศปก.ศบค.) ได้จัดการประชุมเพื่อประเมินความเหมาะสมในการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2565 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล
และได้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) หรือ ศบค. ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2565 มีมติเห็นชอบให้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไปด้วยแล้ว โดยมีเหตุผลและความจำเป็นตามสรุปสาระสำคัญของการประชุมรายละเอียด ดังนี้
กรมควบคุมโรคได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาด ดังนี้
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดในห้วง 1-2 เดือนต่อจากนี้
เป็นช่วงที่ต้องมีการบูรณาการประสานการปฏิบัติทางด้านสาธารณสุขอย่างเต็มกำลังเพื่อรักษาขีดความสามารถทางด้านสาธารณสุข เนื่องจากในห้วงเดือนเมษายนเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางไปท่องเที่ยวในหลายท้องที่ อาจจะก่อให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อโรคไปในวงกว้างมากขึ้น
จึงมีความจำเป็นต้องอาศัยอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในการบูรณาการประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการทางด้านสาธารณสุขที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ
มาตรการป้องกันโรคโควิด - 19 ในการจัดงานช่วงเทศกาลสงกรานต์
ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเฉพาะช่วงเวลาเทศกาลสงกรานต์ตามที่กรมควบคุมโรคเสนอ โดยมีมาตรการที่สำคัญ อาทิ
มติของที่ประชุม ที่ประชุมมีความเห็นว่ามีความจำเป็นจะต้องใช้อำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต่อไปอีกคราวหนึ่ง เพื่อประโยชน์ในการบูรณาการปฏิบัติงานและการดำเนินมาตรการที่จำเป็นในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และให้การบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคมีความต่อเนื่อง จึงเห็นสมควรให้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร คราวที่ 17 เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565
จากนั้นวันที่ 23 มีนาคม 2565 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ 2 ฉบับ
โดยฉบับแรก เป็น ประกาศเรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ โดยเนื้อหาระบุว่า
ตามที่ได้มีประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ ๑๗) ลงวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ นั้น
เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติการป้องกัน แก้ไข ระงับยับยั้ง ฟื้นฟู หรือช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ฉุกเฉิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้บรรดาประกาศที่คณะรัฐมนตรี กำหนดขึ้นตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม
พ.ศ. ๒๕๖๓ และคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๕/๒๕๖๓ เรื่อง การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
และที่แก้ไขเพิ่มเติม ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีจะกำหนดเป็นอย่างอื่น
ส่วนฉบับที่ 2 ประกาศเรื่อง การให้ข้อกำหนด ประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนด ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ โดยเนื้อหาระบุว่า
ตามที่ได้มีประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ ๑๗) ลงวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ นั้นเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติการป้องกัน แก้ไข ระงับยับยั้ง ฟื้นฟู หรือช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ฉุกเฉิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗ มาตรา ๘ และมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘
นายกรัฐมนตรีจึงให้บรรดาข้อกำหนด ประกาศ และคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดขึ้นตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
และตามประกาศขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่านายกรัฐมนตรีจะกำหนดเป็นอย่างอื่น
โดยประกาศทั้ง 2 ฉบับ มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ลงนามโดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี