พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แถลงข่าว ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 31 มีนาคม 2565 ช่วงหนึ่งถึงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่เดินทางมาจากต่างประเทศมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับการติดเชื้อภายในประเทศ
โดยล่าสุดในเดือนมี.ค.65 มีผู้ติดเชื้อโควิดที่เดินทางมาจากต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.59% เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศ ขณะที่เดือน ก.พ. มีสัดส่วน 2.25% และเดือนม.ค.65 มีสัดส่วน 3.73%
สำหรับผู้ติดเชื้อภายในประเทศที่ยังอยู่ในระบบการรักษา มีทั้งสิ้น 246,770 ราย ในจำนวนนี้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 62,747 ราย อยู่ใน รพ.สนาม และสถานกักตัวอื่นๆ อีก 184,023 ราย ผู้ที่รักษาในโรงพยาบาล มีผู้ป่วยปอดอักเสบ 1,808 ราย เพิ่มขึ้น 81 ราย และในจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบมี 713 รายที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 34 ราย
"แนวโน้มของผู้ติดเชื้อรายวัน ทั้งผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจยังมีทิศทางเพิ่มขึ้น ในช่วงนี้ประเทศไทยยังเป็นช่วงขาขึ้น เพราะฉะนั้นมาตรการต่างๆ ยังมีความสำคัญ และต้องเน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญ คือ การฉีดวัคซีน เพราะจะลดอาการหนัก ไม่ต้องเข้าแอดมิทใน รพ." พญ.สุมนี กล่าว
สำหรับอัตราการครองเตียงในจังหวัดที่พบว่าสูงเกิน 50% มี 2 จังหวัด คือ สุราษฎร์ธานี อัตราการครองเตียง 50.9% และสงขลา อัตราการครองเตียง 65.7% ซึ่งทำให้สถานพยาบาลในจังหวัดดังกล่าวได้เตรียมจัดการและรองรับผู้ป่วยหนักให้มีความพร้อมมากขึ้น เพราะการระบาดในช่วงนี้ยังถือว่าเป็นช่วงขาขึ้น ขณะที่เดือนเม.ย. จะเป็นช่วงที่มีการรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมในเทศกาลสงกรานต์ด้วย