บริษัทรับส่งพัสดุด่วนอ.แม่ระมาด จ.ตาก สงสัยกล่องหนักผิดสังเกต แจ้งตำรวจเปิดตรวจตะลึง พบปืนอาก้า 5 กระบอก ขยายผลถึงบ้านเช่าอ.ท่าสองยาง ปลายทางของพัสดุ ตรวจยึดได้อีก 7 กระบอก ขณะที่ทหารเตียมหลุมหลบภัยให้ชาวบ้านที่อ.ท่าสองยางรับมือเพื่อนบ้านรบหน้าแล้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่ระมาด อ.แม่ระมาด จ.ตาก ได้รับแจ้งจากบริษัทขนส่งให้บริการรับส่งพัสดุด่วนแห่งหนึ่งในอ.แม่ระมาด ว่ามีพัสดุกล่องหนึ่งให้ส่งถึงผู้รับในอ.ท่าสองยาง มีน้ำหนักมากผิดปกติ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบเป็นกล่องพัสดุขนาดใหญ่ มีชื่อผู้ส่งและผู้รับชัดเจน
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแกะกล่องพัสดุออกตรวจสอบก็ต้องตะลึง เมื่อพบเป็นอาวุธสงคราม ประกอบด้วย ปืนอาก้า จำนวน 5 กระบอก และซองกระสุนจำนวน 5 ซอง ห่อหุ้มด้วยพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง พอฉีกพลาสติกออก พบว่าเป็นปืนอาก้า มีสภาพเก่าแต่ยังใช้การได้ดี เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เพื่อทำการขยายผล เมื่อสอบสวนเบื้องต้นแล้วทราบว่า มีความเชื่อมโยงกับพื้นที่ อ.ท่าสองยาง จึงได้แจ้งไปยังสภ.ท่าสองยาง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อย 3504 อ.ท่าสองยาง หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 อ.แม่สอด ได้รับการประสานจากตำรวจสภ.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง ว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งพัสดุ EXPRESS แห่งหนึ่ง ใน อ. ท่าสองยาง จ.ตาก ให้ดำเนินการตรวจสอบกล่องพัสดุต้องสงสัย เนื่องจากมีน้ำหนักมากเกินปกติ
จึงจัดกำลังร่วมกับตำรวจ สภ.ท่าสองยาง เข้าดำเนินการตรวจสอบพัสดุ ชื่อผู้ส่งคือนา ........พัสดุส่งมาจาก แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ และชื่อผู้รับคุณวรรณ.......ที่ ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง เมื่อแกะกล่องพัสดุดู พบอาวุธสงคราม ปืนอาก้าจำนวน 5 กระบอก และซองกระสุนจำนวน 5 ซอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตรวจสอบพัสดุแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจดูบ้านปลายทาง ที่ ต.แม่อุสุ ซึ่งพบว่าเป็นบ้านเช่า จึงเข้าไปตรวจค้นในบ้านพบอาวุธปืนบีบีกัน (สั้น 4 กระบอก, ยาว 1 กระบอก) รวม 5 กระบอก ขณะที่การขยายผลที่อำเภอแม่ระมาดทราบว่า มีชายต้องสงสัย 3 คน เดินทางไปรับพัสดุ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่ออยู่ในพื้นที่ อ.แม่ระมาด จ.ตาก ภายหลังมีการตรวจยึดอาวุธปืนอาก้าได้ 7 กระบอก กับซองบรรจุกระสุน จำนวน 12 ซอง ซึ่งเจ้าพนักงานสอบสวนจะขยายผลหาผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนต่อไป
ขณะที่สถานการณ์การสู้รบอย่างต่อเนื่อง ตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจ.ตาก ระหว่างทหารรัฐบาลเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงอิสระ KNU ทำให้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 (ฉก.ทพ 35 ) โดย ร้อย.ทพ.3508 ร่วมกับฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ได้ดำเนินการปรับปรุงสร้างหลุมหลบภัยเพิ่มเติม
มีขนาดความกว้าง 3 ม. ยาว 15 ม. ความจุ 30 คน บริเวณพื้นที่ด้านข้างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านท่าสองยาง บ้านสวนอ้อย หมู่ 9. ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง
เพื่อรองรับสถานการณ์กรณีหากเกิดการสู้รบตามแนวชายแดนในประเทศเพื่อนบ้าน ด้านตรงข้ามพื้นที่รับผิดชอบของหน่วย โดยได้ดำเนินการแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย สามารถเป็นที่หลบภัยของประชาชน มีความมั่นคงแข็งแรง ปลอดภัย หากมีเหตุการณ์สู้รบตามแนวชายแดนในพื้นที่ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนคนไทย
ขณะที่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา พื้นที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก ณ บริเวณพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านเลตองคุ (MT 530368) ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก ได้มีผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง เดินทางเข้ามายังฝั่งไทย เพิ่มมากขึ้น จากยอดเดิมมีจำนวน 758 คน (แบ่งเป็นชาย 172 คน หญิง 231 คน ด.ช.171 คน และ ด.ญ.184 คน) โดยมียอดเพิ่มเติม จำนวน 40 คน (ชาย 15 คน หญิง 0 คน ด.ช.19 และ ด.ญ.6) โดยมีผู้อพยพที่มีความสมัครใจ จำนวน 23 คน (ช, ญ 23) พี่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา ทำให้มีผู้อพยพคงเหลือในฝั่งไทย จำนวน 775 คน เป็นชาย187 คน, หญิง 208 คน , ด.ช.190 คน และ ด.ญ.190 คน