ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ.2565 ว่า ที่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ริมแม่น้ำเมย ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก กองทัพทหารเมียนมาใช้อาวุธหนัก คือ ยิงปืนใหญ่ ประมาณ 10 กว่านัด เข้าใส่ที่บ้านผลูเล (ผาลูน้อย) ที่ตั้งฝ่ายต่อต้านอย่างหนัก โดยทั้งสองฝ่ายต่างยิงต่อสู้ใส่กันอยู่ ยังไม่ทราบความสูญเสีย เบื้องต้นยังไม่มีผลกระทบต่อฝั่งไทย
สถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมา(ทมม.) กับกองกำลังชนกลุ่มน้อย สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU โดยกองกำลังรบพิเศษ KNLA ในพื้นที่ชายแดนด้านตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ยังดำเนินต่อเนื่อง
โดยทหารเมียนมาได้ยิงอาวุธปืนใหญ่ จากฐานฯ เลแนะจีโกง (MU 508332) อ.เมียวดี จ.เมียวดี สหภาพเมียนมา เป็นระลอก โดยชุดแรกจำนวน 6 นัด เข้าไปยังพื้นที่บ้านผลูเล (ผาลูน้อย) (MU 546307) อ.เมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง พื้นที่ตรงข้าม หมู่ 9 บ้านห้วยมหาวงศ์ ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก ไม่ทราบผลการสูญเสีย
ถัดมายิงอีก 7 นัด ไปยังเป้าหมายเดิม และจากนั้นยิงอีก 8 นัด จากฐานฯ เลแนะจีโกง (MU 508332) และ ฐานฯ ผาลู (MU 551322) เข้าไปยังบริเวณ บ้านผาลูน้อย (MU 546307) อ.เมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง จำนวน 8 นัด ยังไม่ทราบผลความสูญเสีย
จากนั้นมีเสียงปืนประจำกาย และยิงปืนเล็กยาว ปะทะกันเป็นระยะ ๆ เป็นห้วง ๆ ในพื้นที่ตรงข้ามหมู่.9 บ้านห้วยมหาวงศ์ ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนไทย-เมียนมา ประมาณ 300 เมตร โดยยังไม่ทราบผลการสูญเสีย ทั้ง 2 ฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กองทัพเมียนมาเปิดปฏิบัติการโจมตีกองกำลังฝ่ายต่อต้านต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ (9 ม.ค.2565) สมาชิกระดับสูงของกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา KA เปิดเผยถึงสถานการณ์การสู้รบใน เมืองลอยก่อว์ ว่า กองกำลังกะเหรี่ยงคะยา KA กองกำลังทหารกะเหรี่ยงคะยา KA PDF และ KNDF Karenni National Defene Force ได้สู้รบกับทหารเมียนมา ไม่ทราบหมายเลขกองพันและนามหน่วย บริเวณระหว่างหมู่บ้านชิแก่ กับ หมู่บ้านดอมูกร่า ห่างจากตัวเมืองลอยก่อว์ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 7 กม.โดยได้มีการสู้รบอย่างหนัก
ต่อมาทหารเมียนมาได้มีการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธอากาศสู่พื้น และปืนกลประจำเครื่องบิน (กันชิฟ) บินโจมตีทหารกะเหรี่ยงคะยาไม่ต่ำกว่า 9 เที่ยวบิน โดยทางทหารกะเหรี่ยงคะยาได้ใช้อาวุธจรวดต่อสู้อากาศยาน ยิงเฮลิคอปเตอร์ของทหารเมียนมาตก 1 ลำ
ต่อมาตอนรุ่งเช้า ทางทหารกะเหรี่ยงคะยาพยายามเข้าไปยังจุดที่ ฮ.ตก แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากทหารเมียนมาได้วางกำลังคุ้มกันอย่างแน่นหนา แต่ก็ยังคงมีการสู้รบในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
นอกจากยิงเฮลิคอปเตอร์ตกแล้ว ทางกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา ยังทำลายรถหุ้มเกราะของทหารเมียนมาอีก 2 คัน รวมไปถึงสามารถยึดอาวุธปืนของทหารเมียนมาได้จำนวนหนึ่ง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิต มีนายทหารเมียนมายศร้อยเอกรวมอยู่ด้วย และมีไฟไหม้บ้านเรือนราษฎรกว่า 20 หลัง รวมไปถึงถนนสายสีเส้ง ที่มุ่งหน้าไปเมืองลอยก่อว์ถูกปิดจากการสู้รบ
ส่วนประชาชนในพื้นที่ ที่มีการสู้รบได้พากันอพยพออกจากตัวเมืองไปอาศัยอยู่ในป่าชานเมือง เนื่องจากอากาศยานของพม่ามักจะยิงโจมตีบ้านเรือนของราษฎรที่อยู่ใกล้พื้นที่การสู้รบ ทั้งที่ประชาชนไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด