โควิดวันนี้รวมatk ตัวเลขยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron)ที่ติดต่อได้ง่าย และรวดเร็ว
ร.ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ปอดอักเสบเพิ่มขึ้นจาก 1899 คน เป็น 2,024 คน เพิ่มขึ้น 6.58%
ใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มจาก 815 คน เป็น 872 คน เพิ่มขึ้น 6.99%
จำนวนติดเชื้อรวม ATK ของวันนี้ ลดลงกว่าสัปดาห์ก่อน 39.45% และน้อยกว่าสองสัปดาห์ก่อน 41.62%
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ตัวเลขแต่ละวันแกว่งมาก อาจสะท้อนถึงปัญหาการเข้าถึงบริการตรวจ การซื้อหาชุดตรวจ
รวมถึงความครอบคลุมครบถ้วนของการรายงานสู่ระบบ และเงื่อนเวลาของการรายงาน
หมอธีระยังโพสต์ด้วยว่า
สถานการณ์ระบาดของไทย
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย
ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 11 ของโลก
ทั้งนี้จำนวนคนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานนั้นคิดเป็น 15.41% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย
การใช้ชีวิตและทำมาหากินที่ไม่ปลอดภัย จะเป็นภัยคุกคามต่อสวัสดิภาพทุกคนในสังคม
การใช้ชีวิต และทำมาหากิน โดยมีพฤติกรรมส่วนบุคคลที่ไม่ป้องกันตัว ทำกิจกรรมเสี่ยง ไปในสถานที่เสี่ยง ทั้งๆ ที่สังคมยังเผชิญกับการระบาดรุนแรงดังที่เป็นในปัจจุบัน ไม่ได้ส่งผลต่อตนเองเท่านั้น แต่จะเป็นภัยคุกคามต่อสวัสดิภาพของทุกคนในสังคม ทั้งสมาชิกในบ้าน คนบ้านใกล้เรือนเคียง คนในที่ทำงาน รวมถึงคนอื่นในสังคมที่ต้องพบปะกับคนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงนั้น
เหตุการณ์ในจังหวัดต่างๆ ทั้งเชียงใหม่ ภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร อาทิ ถนนข้าวสาร รวมถึงสถานบันเทิงย่านรามอินทรา ที่เป็นข่าวใหญ่ในสื่อมวลชนช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น
ชี้ให้เห็นความเสี่ยงต่อการระบาดปะทุหนักขึ้นได้ เพราะมีเรื่องไม่ใส่หน้ากาก แออัด คลุกคลีใกล้ชิด อยู่กันในที่ระบายอากาศไม่ดี ระยะเวลาที่อยู่กันนาน แชร์ของร่วมกัน รวมถึงการเล่นน้ำสาดน้ำหรือใช้ปืนฉีดน้ำเล่นกัน
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องตระหนักถึง"บทบาทหน้าที่"ของตนเองในการปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน
และยามที่เกิดการระบาดปะทุรุนแรงขึ้น จนนำมาสู่ความสูญเสียชีวิต และส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังสังคมและเศรษฐกิจ คงจะไม่เป็นธรรมหากจะบอกให้ทุกคนทุกภาคส่วนในสังคมต้องมารับผิดชอบร่วมกัน เพราะความสูญเสียนั้นเกิดจากน้ำมือกลุ่มคนและกลุ่มธุรกิจส่วนน้อยที่ฝ่าฝืน ไม่รับผิดชอบ และหน่วยงานรัฐที่มีกฎหมายในมือแต่ไม่สามารถจัดการปราบปรามหรือป้องกันได้
สำนึก และความรับผิดชอบ เป็นสิ่งที่ทุกคนทุกภาคส่วนจำเป็นต้องมี เพื่อประคับประคองให้เราอยู่รอดปลอดภัยจากโรคระบาด ใช้ชีวิตได้ ทำมาหากินได้ แต่ควรเป็นไปในแนวทางที่ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อสังคม