ลบประวัติอาชญกร สิทธิที่ถูกลืม ? “บิ๊กโจ๊ก” เร่งคืนชีวิตให้ประชาชน

03 พ.ค. 2565 | 08:00 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ค. 2565 | 15:21 น.

ที่ผ่านมาหลายคนมีคำถามว่า"ลบประวัติอาชญากร" สามารถทำได้หรือไม่ เพราะปัจจุบันการตรวจสอบประวัติบุคคลมีความสำคัญมาก ล่าสุด “บิ๊กโจ๊ก” เร่งเเก้ปัญหาเพื่อคืนชีวิตให้ประชาชน

ประเด็นปัญหาการขอ "ลบประวัติอาชญากร" เป็นเรื่องที่ถูกยกขึ้นมาพูดถึงหลายครั้ง เพื่อจะได้ทราบแนวทางการพิจารณาว่าจะขอลบประวัติอาชญากรได้หรือไม่

ด้วยเหตุผลว่าปัจจุบัน สังคมให้ความสำคัญต่อการตรวจสอบประวัติของบุคคลมากขึ้น หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ต้องการบุคคลที่ปราศจากประวัติอาชญากรรมเข้าทำงานในองค์กร/บริษัทของตน

จึงกำหนดหลักเกณฑ์การตรวจสอบคุณสมบัติต่าง ๆ โดยประชาชนต้องแสดงผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ประกอบในการสมัครงาน เเต่ใครเคยมีประวัติถูกฟ้องคดีอาญา แต่ศาลยกฟ้อง จะยังมีประวัติอาชญากรรมอยู่ในฐานข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากร

เเบบนี้ทำให้อาจถูกตัดสิทธิ์ ไม่ได้รับการพิจารณาเข้าทำงาน ขาดโอกาสในการกลับไปใช้ชีวิตใหม่เฉกเช่นประชาชนคนอื่น 

เรื่องนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เห็นความสำคัญ ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เร่งศึกษาและแก้ไข เพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติสุขได้ในสังคม 

 

โดยคัดแยกหรือเปลี่ยนแปลงรายการข้อมูลทะเบียนประวัติอาชญากรของบุคคลที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติ  เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านการทะเบียนประวัติอาชญากรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้อยู่ในระดับมาตรฐานสากล สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันดำเนินการอย่างเร่งด่วน 

 

ล่าสุด พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.วีระ  จิรวีระ ผบช.สพฐ. และพล.ต.ต.ฐากูร  นิ่มสมบูรณ์ ผบก.ทว. ตรวจสอบข้อมูลตามข้อสั่งการ พบข้อมูลสถิติ ณ วันที่ 28 เมษายน 2565 มีจำนวนประวัติที่ยังไม่ได้คัดแยกผลคดีกว่า 12.4 ล้านราย

 

ในจำนวนนี้ พนักงานสอบสวนได้ส่งรายงานผลคดีถึงที่สุดให้กองทะเบียนประวัติอาชญากรทราบแล้ว จำนวน 7.8 ล้านราย คงเหลือที่พนักงานสอบสวนจะต้องรายงานผลคดีถึงที่สุดเพิ่มเติมอีกจำนวน 4.6 ล้านราย โดยได้มอบหมายให้ทุกสถานีตำรวจเร่งสำรวจข้อมูลคดีอาญาถึงที่สุดในความรับผิดชอบ โดยมุ่งเน้นการคัดแยกประวัติอาชญากรรมที่เข้าเกณฑ์ ในกรณีดังต่อไปนี้

 

  1. คดีที่พนักงานอัยการสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง หรือสั่งยุติการดำเนินคดีอาญา ตามระเบียบว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ
  2. ศาลสั่งยกฟ้อง หรือไม่ประทับรับฟ้อง
  3.  ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้อง

 

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ระเบียบปฏิบัติของตำรวจกำหนดให้นำข้อมูลและลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหามาจัดเก็บลงในฐานข้อมูลทะเบียนประวัติอาชญากรไว้ก่อน แม้ต่อมาพนักงานอัยการจะมีคำสั่งไม่ฟ้องหรือศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง ก็ไม่ได้นำรายชื่อของผู้ต้องหาหรือจำเลยนั้นออกจากทะเบียนประวัติอาชญากรโดยอัตโนมัติ

ลบประวัติอาชญกร สิทธิที่ถูกลืม ? “บิ๊กโจ๊ก” เร่งคืนชีวิตให้ประชาชน

แต่ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะต้องมายื่นคำร้องต่อกองทะเบียนประวัติอาชญากรเพื่อคัดชื่อออกเอง ซึ่งเป็นการสร้างภาระให้กับประชาชน จึงได้มีการจัดทำโครงการ “ลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน”  โดยการคัดแยกหรือทำลายรายการข้อมูลทะเบียนประวัติอาชญากรของบุคคลที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติอาชญากรที่เข้าหลักเกณฑ์ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้แก่ประชาชน ไม่ต้องเดินทางมาร้องขอด้วยตนเอง ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จแล้ว จะมอบหมายสายตรวจในพื้นที่แจ้งให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของประวัติทราบต่อไป

 

ขณะที่มีการดำเนินการโครงการตำรวจยังตรวจสอบพบว่า มีผู้ฉวยโอกาสที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน หลอกลวงว่าสามารถดำเนินการลบประวัติอาชญากรให้ได้  จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการเร่งสืบสวนติดตาม จนสามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 รายดังนี้ 

 

รายเเรกคือ นายวรพล ทรงสละบุญ อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดปทุมธานี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค กลุ่มไรเดอร์ต่างๆ ว่าสามารถตรวจสอบและลบข้อมูลประวัติอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ โดยที่ไม่ต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง ซึ่งขัดกับหลักการปฏิบัติที่ถูกต้อง

 

จากการสืบสวนพบว่านายวรพล จะคิดค่าบริการรายละ 200 – 2,000 บาท แต่เอกสารที่จัดทำมานั้นเป็นเอกสารราชการที่ถูกปลอมแปลงขึ้นมาทั้งฉบับ และไม่ได้มีการลบข้อมูลประวัติอาชญากรรมได้จริง ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อและเสียเงินค่าบริการ จำนวนหลายราย

ลบประวัติอาชญกร สิทธิที่ถูกลืม ? “บิ๊กโจ๊ก” เร่งคืนชีวิตให้ประชาชน

ตำรวจขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ นายวรพล  ในข้อหา “พยายามฉ้อโกงประชาชน , ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม , นำเข้าข้อมูลอันเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” และได้เข้าทำการจับกุมนายวรพล หรือหลุยส์ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

 

รายที่ 2 จากการที่พลเมืองดีสอบถามเพจของกองทะเบียนประวัติอาชญากร พร้อมส่งเอกสารการตรวจสอบประวัติมาให้ดู จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเอกสารราชการปลอม กองทะเบียนประวัติอาชญากรจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.ปทุมวัน

โดยผู้ที่ทำเอกสารปลอมขึ้นมานั้นคือ นายจำลอง ยิ่งตระกูล อายุ 58 ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพนักงานชั่วคราวของบริษัทรักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนนทบุรี

ลบประวัติอาชญกร สิทธิที่ถูกลืม ? “บิ๊กโจ๊ก” เร่งคืนชีวิตให้ประชาชน

นายจำลองฯ รับว่าได้ทราบว่าบริษัทต้องไปเอาเอกสารการตรวจสอบประวัติพนักงานจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร เพื่อใช้ในการเบิกเงิน จึงคิดว่าทำขึ้นมาเองได้ เพราะตนเองเจอเอกสารการตรวจสอบประวัติเก่าตั้งแต่ปี 2562 จึงนำข้อความมาตัดแปะ และถ่ายเอกสารหลายครั้ง เพื่อปกปิดร่องรอยการปลอมแปลง พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาว่า ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม  

 

หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง กองทะเบียนประวัติอาชญากรโดยตรง สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-2051315 ในเวลาราชการ 08.30-16.30 น.หรือ www.crd-check.com