"คาร์ซีท" เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีเมื่อมีการนำบุตรหลานออกเดินทางทั้งใกล้หรือไกล สามารถปกป้องและลดความรุนแรงของการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุให้กับเด็ก องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่า การใช้ "คาร์ซีท" ช่วยลดการเสียชีวิตของเด็กได้ถึงร้อยละ 70 ปัจจุบัน 96 ประเทศทั่วโลก มีกฎหมายบังคับใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กแล้ว
แน่นอนว่า กฏหมายบังคับใช้คาร์ซีทในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและป้องกันอันตรายต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กๆ ขณะเดินทางในรถยนต์ เพื่อลดอาการบาดเจ็บจากแรงกระแทกจากอุบัติเหตุภายในหรือภายนอกรถยนต์
1.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทสหราชอาณาจักร
- เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือมีความสูงน้อยกว่า 4 ฟุต 5 นิ้ว / 135 เซนติเมตร ต้องนั่งคาร์ซีทหรือ Booster Seat เด็กที่มีอายุมากกว่า 12 ปี หรือมีความสูงมากกว่า 4 ฟุต 5 นิ้ว / 135 เซนติเมตร สามารถใช้ที่นั่งในรถยนต์ได้ตามปกติ โดยไม่จำเป็นต้องใช้Booster Seat
2.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทฝรั่งเศส
- เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปีและมีความสูงน้อยกว่า 135 เซนติเมตรต้องใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กที่ได้รับการรับรองจาก UN R44/R129
- เด็กที่มีความสูงระหว่าง 135 ถึง 150 เซนติเมตร สามารถใช้ Car Seatแบบ Booster ได้หากทางคุณพ่อคุณแม่ต้องการซึ่งเป็นเบาะนั่งเสริมที่ติดตั้งได้โดยยึดกับเบาะหลังของรถยนต์
- หากในรถยนต์ไม่มีเบาะหลังหรือไม่มีเข็มขัดนิรภัยในเบาะหลังคุณพ่อคุณแม่สามารถนำคาร์ซีทแบบ Rear-facing Seat(หันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์) มาไว้ที่นั่งหน้ารถยนต์ได้
- ไม่จำเป็นต้องใช้คาร์ซีทในแท็กซี่
3.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทเยอรมนี
- ต้องมีสายรัดนิรภัยสำหรับเด็กที่ได้รับอนุมัติตาม UN R44/R129สำหรับเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 12 ปีหรือส่วนสูงน้อยกว่า 150 เซนติเมตร
- เด็กต้องใช้คาร์ซีทในแท็กซี่
4.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทเนเธอร์แลนด์
- เด็กที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตรต้องใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กที่ได้รับการรับรองจาก UN R44 / R129
- หากรถยนต์ไม่มีเข็มขัดนิรภัยที่เบาะหลังรถยนต์ เด็กอายุ 3ปีขึ้นไปสามารถนั่งเบาะหลังได้
- ถ้าต้องการให้เด็กจำนวนสามคนนั่งบนเบาะหลังแต่มีที่ว่างสำหรับ Car Seat แค่ 2 ที่นั่ง และเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไปอีก 1 คนสามารถใช้เข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้ใหญ่ได้
- หากไม่มี Car Seat ในแท็กซี่ที่ได้รับอนุญาต (ป้ายทะเบียนสีน้ำเงิน)โดยเด็กที่มีอายุมากกว่า 3ปี
- สามารถนั่งเบาะหลังของรถยนต์ได้โดยใช้เข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้ใหญ่และเด็กอายุต่ำกว่า 3ปีสามารถนั่งเบาะหลังได้โดยไม่ต้องใช้เข็มขัดนิรภัย
- ผู้โดยสารเด็กสามารถนั่งเบาะข้างหน้าของแท็กซี่ได้แต่ต้องมีความสูงมากกว่า 135 เซนติเมตร
- ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้ใหญ่
5.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทโปรตุเกส
- เด็กทุกคนที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปีและมีความสูงน้อยกว่า 135 เซนติเมตรต้องใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กที่ได้รับการรับรองจาก UN R44/R129คุณพ่อคุณแม่สามารถให้เด็กอายุต่ำกว่าสามขวบนั่งเบาะด้านหน้าที่มี
- คาร์ซีทรองรับได้ในขณะที่ถุงลมนิรภัยเสียหรือไม่ทำงาน
- หากรถยนต์ไม่มีเข็มขัดนิรภัยที่เบาะหลังเด็กสามารถนั่งเบาะข้างหน้ารถยนต์ได้ โดยเลือก Car Seat ที่ถูกประเภทและถุงลมนิรภัยต้องไม่ทำงาน
- หากต้องการให้เด็กสามคนนั่งเบาะหลังแต่มีที่ว่างสำหรับ Car Seat แค่ 2 ที่นั่ง และเด็กที่เหลืออีก 1คนที่อายุมากที่สุดอาจจะใช้เข็มขัดนิรภัยในที่นั่งตรงกลางได้
- ไม่จำเป็นต้องใช้คาร์ซีทในแท็กซี่
6.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทไอร์แลนด์
- เด็กที่มีส่วนสูงต่ำกว่า 150 ซม. หรือมีน้ำหนัก 36 กก. (79 ปอนด์)ต้องใช้ระบบพยุงตัวสำหรับเด็กที่เหมาะสมกับส่วนสูงและน้ำหนักที่ได้รับการอนุมัติตาม UN R44 หรือ R129
- เด็กสามารถนั่งในที่นั่งด้านหน้าได้ตราบเท่าที่พวกเขาใช้ Car Seatที่ถูกต้องสำหรับส่วนสูงและน้ำหนักแต่การใช้คาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ (Rear-Facing Seat)ในที่นั่งที่ถุงลมนิรภัยทำงานอยู่ ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
- ควรให้เด็กนั่งหลังรถยนต์โดยห่างจากถุงลมนิรภัยและแผงหน้าปัดเสมอ
- ไม่จำเป็นต้องใช้คาร์ซีทในแท็กซี่
7.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทเดนมาร์ก
- เด็กควรใช้ Car Seat ที่เหมาะสมกับส่วนสูงและน้ำหนักจนพวกเขามีความสูงถึง 135 ซม.
- คาร์ซีทต้องได้รับการอนุมัติตาม UN R44 หรือ R129
- ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ Rear-Facing Seatแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ในที่นั่งด้านหน้าของรถยนต์ถ้าถุงลมนิรภัยยังทำงานอยู่
- ผู้ขับรถยนต์มีหน้าที่รับผิดชอบต่อเด็กทุกคนที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีโดยการเลือกใช้คาร์ซีทหรือเข็มขัดนิรภัยให้ปลอดภัยอย่างเหมาะสมต่อเด็ก
- เด็กสามารถเดินทางด้วยแท็กซี่ได้โดยไม่มี Car Seat หากไม่มีที่นั่งว่างโดยเด็กต้องนั่งเบาะหลัง และถ้าเด็กอายุ 3ปีขึ้นไปต้องคาดเข็มขัดนิรภัย
8.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทสเปน
- ถ้ามีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีและสูงน้อยกว่า 135เซนติเมตรอยู่บนรถยนต์ จำเป็นต้องใช้คาร์ซีทที่ได้รับการรับรองจากUN R44/R129 ตรงเบาะหลังของรถยนต์
- กรณีที่รถยนต์บางคันมีเพียงสองที่นั่ง หรือไม่สามารถใส่ Car Seat ที่เบาะหลัง สามารถติดตั้งคาร์ซีทที่เบาะหน้าได้โดยที่ถุงลมนิรภัยต้องไม่ทำงาน
- หากพ่อแม่ถูกจับได้โดยไม่มี Car Seat ในรถยนต์ตำรวจจะขอให้คุณรอจนกว่าจะมีคนนำคาร์ซีทมาให้หรือจะพาเด็กไปขึ้นรถยนต์หรือแท็กซี่อีกคันที่มีคาร์ซีทก็ได้
- ค่าปรับเมื่อทำผิดกฎหมายคาร์ซีทประมาณ 300 ยูโร
- ไม่จำเป็นต้องใช้คาร์ซีทในเมืองแต่หากพ่อแม่จอดรถที่สนามบินและกำลังเดินทางนอกใจกลางเมือง จำเป็นต้องใช้ Baby Car Seat กับลูกน้อย
9.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทสหรัฐอเมริกา
- แต่ละรัฐจะมีกฎหมาย Car Seatสำหรับเด็กและนักเดินทางที่ต้องปฏิบัติแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ
- เช่น รัฐเซาท์ดาโคตากำหนดให้มีคาร์ซีทสำหรับเด็กสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปีและมีน้ำหนักน้อยกว่า 40 ปอนด์
- ในขณะที่รัฐเทนเนสซีกำหนดให้มี Car Seat สำหรับเด็กที่มีอายุน้อยกว่า8ปีและรวมถึงมีข้อกำหนดสำหรับคาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ (Rear-Facing Seat) แบบหันไปทางหน้ารถยนต์ (Forward-Facing Seat)และแบบเบาะนั่งเสริม (Booster)
- คาร์ซีททั้งหมดในตลาดต้องผ่านข้อกำหนด(รวมถึงการทดสอบการชน) ของ FMVSS 213โดยสถาบันประกันภัยบนทางหลวงจะจัดทำตารางกฎหมายของรัฐทั้งหมด
- ในรัฐส่วนใหญ่การเดินทางบนแท็กซี่ได้รับการยกเว้นจากกฎหมายคาร์ซีท ยกเว้นรัฐแคลิฟอร์เนีย
10.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทแคนาดา
- แต่ละรัฐจะมีกฎหมาย Car Seat และ Booster Seat ที่ต้องปฏิบัติแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ
- เช่น รัฐอัลเบอร์ตากำหนดให้ใช้คาร์ซีทกับเด็กอายุ 6 ปี หรือมีน้ำหนักอย่างน้อย 18 กิโลกรัม (40 ปอนด์) ส่วนกฎหมายที่นั่งเสริมยังไม่มี
- รัฐบริติชโคลัมเบียกำหนดให้คาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (Rear-Facing) กับเด็กอายุอย่างน้อย 1 ปี หรือมีน้ำหนัก 9 กิโลกรัม (20 ปอนด์) ส่วนกฎหมายที่นั่งเสริมให้ใช้จนเด็กสูงถึง 145 เซนติเมตรหรืออายุ 9 ปี
- รัฐแมนิโทบาให้ใช้คาร์ซีทหรือเบาะนั่งเสริมให้เหมาะสมกับอายุ น้ำหนัก และส่วนสูงของเด็ก โดยเบาะนั่งเสริมให้ใช้จนเด็กสูงถึง 145 เซนติเมตร หรือมีน้ำหนักถึง 36 กิโลกรัม (80 ปอนด์) หรืออายุ 9 ปี
11.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทญี่ปุ่น
- มีแนวทางให้ปฏิบัติตาม โดยให้ใช้คาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลัง (Rear-Facing Car Seat) จนกว่าเด็กจะอายุครบ 2 ปี หรือมีน้ำหนักไม่เกิน 9 กิโลกรัม (20 ปอนด์)
- ส่วนคาร์ซีทแบบหันไปทางหน้ารถยนต์ (Forward Facing Car Seat) ให้ใช้สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี หรือมีน้ำหนักไม่เกิน 18 กิโลกรัม (40 ปอนด์) และเบาะเสริม ( Booster Seat) สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี และมีน้ำหนักไม่เกิน 36 กิโลกรัม (80 ปอนด์)
12.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทฟิลิปปินส์
- ต้องได้รับเครื่องหมายมาตรฐานของประเทศฟิลิปปินส์ โดยคาร์ซีทประเภทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ (Rear-Facing Seat) และแบบหันไปทางหน้ารถยนต์ (Forward-Facing Seat) ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีใช้ ส่วนน้ำหนักและส่วนสูงของเด็กตามที่ผู้ผลิตระบุ
- คาร์ซีทประเภทเบาะนั่งเสริม (Booster) บังคับใช้กับเด็กไม่เกินอายุไม่เกิน 12 ปี และส่วนสูงไม่เกิน 150 เซนติเมตร ค่าปรับกรณีฝ่าฝืนโดยไม่ได้ให้เด็กใช้ Car Seat หรือเบาะนั่งเสริมจะถูกปรับเป็นเงินจำนวน 1,000 เปโซสำหรับความผิดครั้งแรก และ 2,000 เปโซสำหรับความผิดครั้งที่สอง และ 5,000 เปโซสำหรับความผิดครั้งที่สาม
- ยึดใบอนุญาตขับรถยนต์ 1 ปี ในกรณีหากพบว่ามีการปลอมแปลงเครื่องหมายมาตรฐานฟิลิปปินส์จะถูกปรับเป็นเงิน 50,000 - 100,000 เปโซ
- ไม่ต้องใช้คาร์ซีทในรถแท็กซี่
13.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทมาเลเซีย
- อนุญาตให้ใช้คาร์ซีทประเภทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ (Rear-Facing Seat)กับเด็กเล็กอายุไม่เกิน 18 เดือน หรือมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 29 ปอนด์
- คาร์ซีทแบบหันไปทางหน้ารถยนต์ (Forward-Facing Seat) ใช้กับเด็กอายุไม่เกิน 4 ปี หรือมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 40 ปอนด์ และเบาะนั่งเสริม (Booster) ใช้กับเด็กอายุไม่เกิน 7 ปี และส่วนสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ในกรณีที่ผู้ปกครองไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะเสียค่าปรับ 2,000 ริงกิต
- ไม่ต้องใช้คาร์ซีทในรถแท็กซี่
14.กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทสิงคโปร์
- อนุญาตให้ใช้คาร์ซีทประเภทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ (Rear-Facing Seat)กับเด็กเล็กอายุไม่เกิน 9 เดือน หรือมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 22 ปอนด์
- คาร์ซีทแบบหันไปทางหน้ารถยนต์(Forward-Facing Seat) ใช้กับเด็กอายุไม่เกิน 4 ปี หรือมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 39 ปอนด์ และเบาะนั่งเสริม (Booster) ใช้กับเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี มีน้ำหนักตัวไม่เกิน 55 ปอนด์ และส่วนสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร
- กรณีที่ผู้ปกครองไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะเสียค่าปรับสูงถึง 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์และจำคุก 3 เดือน
- ไม่ต้องใช้คาร์ซีทในรถแท็กซี่ เพราะแท็กซี่ได้รับการยกเว้นด้วยกฎหมายว่าด้วยการควบคุมเด็ก
- องค์การสหประชาชาติได้กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก โดยออกคำสั่งห้ามที่นั่งเสริมแบบไม่มีพนักพิงสำหรับเด็กที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 22 กก. และสูงต่ำกว่า 125 เซนติเมตร
ที่มา : Britax Thailand healthline