พล.ต.ต.หญิง วิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 ลง 5 ก.พ. 2558 ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา ยกเว้นการขายเฉพาะร้านค้าปลอดอากรภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ
โดยในปีนี้วันวิสาขบูชา ตรงกับวันอาทิตย์ ที่ 15 พ.ค. 65 ทั้งนี้ เพื่อให้บังคับใช้กฎหมายในวันสำคัญทางศาสนาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการร้านค้า และประชาชน ให้งดจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
ทั้งชนิดขายส่งและขายปลีกทั่วราซอาณาจักร ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลาหลังเที่ยงคืน(เวลา 24.00 น.) ของคืนวันที่ 14 พ.ค. 65 จนถึงเวลา 24.00 น. ของคืนวันที่ 15 พ.ค. 65 (ยกเว้นเฉพาะร้านค้าปลอดอากรภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ) หากผู้ใดฝ่าฝืน มีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 39 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ในด้านการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบสายงานป้องกันปราบปราม ได้มีหนังสือสั่งการให้หน่วยปฏิบัติทั่วประเทศ จัดกำลังสายตรวจออกตรวจตราพื้นที่ เพื่อป้องปรามการกระทำผิด เน้นการตรวจตราร้านอาหาร สถานบริการบันเทิง บริเวณสถานีขนส่งต่างๆ และสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง และให้กวดขันจับกุมหากปรากฏการกระทำผิดซัดเจน โดยให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติให้เรียบร้อย
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัดตามมาตรการสาธารณสุข สวมหน้ากากป้องกัน เว้นระยะห่างทางสังคม หมั่นล้างมือ และพกแอลกอฮอล์เจล ในการเข้าร่วมทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา หรือจะใช้วิธีการสวดมนต์อยู่ที่บ้าน และเข้าร่วมทำกิจกรรมเวียนเทียนออนไลน์ ทางเว็บไซต์ของกรมการศาสนา
และให้ระมัดระวังการใช้ช่องทางโซเชียลอื่นๆ โดยห้ามให้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด หรือเลขบัญชีธนาคารอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางออนไลน์ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสและข้อมูลข่าวสารมายังโทรศัพท์ สายด่วน 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง