นายสกนธ์ กรกฎ นายอำเภอสร้างคอม จ.อุดรธานี เปิดเผยกรณีที่ได้มีการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ อาวุธ เครื่องใช้เครื่องประดับหิน หลายสิบชิ้น ในที่ดินของเอกชน ริมทางหลวงสาย อ.เพ็ญ- อ.สร้างคอม ม.7 บ้านท่าเสียว ต.สร้างคอมฯ ว่า ที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่ศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น นักวิชาการโบราณคดีจากพิพิธภัณฑ์สถานบ้านเชียง เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ทั้งฝ่ายปกครอง อปท.ลงพื้นที่ศึกษาสำรวจเบื้องต้น และช่วยกันดูแลรักษาป้องกันบริเวณพื้นที่ เพื่อไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปขุดค้นหาสิ่ง หรือทำลายสภาพต่าง ๆ ให้เกิดความเสียหาย และได้รายงานเหตุให้ทางจังหวัดทราบแล้ว
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชกสนจังหวัดอุดรธานี เดินทางลงตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และนักวิชาการ พร้อมสั่งกำชับพื้นที่ให้รักษาป้องกันการลักลอบเข้าทำลายพื้นที่ เพื่อรอคณะเจ้าหน้าที่ชุดใหญ่ตรวจพิสูจน์ความเก่าแก่ หากมีอายุเก่าแก่เช่นเดียวกับยุคบ้านเชียง ก็จะเสนอพัฒนาให้เป็นศูนย์เรียนรู้แหล่งโบราณคดี และแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ของมนุษย์อีกแห่ง ของจังหวัดอุดรธานีต่อไป
นายสกนธ์ฯเปิดเผยอีกว่า พื้นที่ที่ขุดพบโครงกระดูกโบราณ อาวุธ เครื่องใช้ เครื่องประดับหินดังกล่าว เป็นพื้นที่ของเอกชน มีเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่เศษ ริมทางหลวงจังหวัด อ.เพ็ญ-อ.สร้างคอม อยู่ห่างจากตัวอำเภอ ประมาณ 2 ก.ม. ซึ่งที่ผ่านมานั้นทางอำเภอได้ประสานเรื่องไปยังพิพิธภัณฑ์สถานบ้านเชียง และสำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น และมีเจ้าหน้าที่จากทั้ง 2 หน่วยงาน ส่งเจ้าหน้าที่นักวชาการโบราณคดีเดินทางลงพื้นที่ ทำการขุดค้นหาหลักฐานเบื้องต้นหลายครั้งแล้ว
จากการสอบถามจากเจ้าหน้าที่นักวิชาการทราบว่า บริเวณดังกล่าวเรียกว่า”ดอนจี่” หรือป่าช้า เบื้องต้นหลักฐานสิ่งของเครื่องใช้หินต่าง ๆ ที่พบ คาดว่าน่าจะเป็นของคนโบราณ ที่อยู่อาศัยของมนุษย์ยุคกลางก่อนประวัติศาตร์มาก่อน ในยุคเดียวกับบ้านเชียง หรืออาจจะก่อนยุคบ้านเชียง โดยสังเกตจากใบขวานหิน ที่มีรูปแบบแตกต่างจากยุคบ้านเชียง โดยที่ขุดพบที่บ้านท่าเสียวมีหูใบขวาน ขณะที่ของบ้านเชียงไม่มีหูใบขวาน ทั้งนี้ ต้องรอการพิสูจน์ทางขบวนการวิชาการอีกครั้ง
นายสกนธ์ฯเปิดเผยอีกว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ว่างเปล่าของเอกชน เนื้อที่ส่วนหนึ่งอยู่ติดกับพื้นที่ลุ่มทามของลุ่มน้ำห้วยหลวง ส่วนหนึ่งติดกับลำห้วยหลวง ภูมิประเทศมีความเหมาะสมกับการตั้งถิ่นที่อยู่อาศัย แต่ที่ผ่านมาทราบว่า นักวิชาการของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเชียง ไม่เคยมีการขุดค้นพบสิ่งของเครื่องใช้หินโบราณในพื้นที่อำเภอสร้างคอมฯ มาก่อนเลย
ซึ่งจากการที่ได้มีการพบโครงกระดูก อาวุธ เครื่องใช้หินโบราณในครั้งนี้ ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการพิสูจน์ทราบ ตามกระบวนการวิชาการ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นพื้นที่ถิ่นอาศัยของมนุษย์โบราณ ทางการก็จะจัดการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติ และทางอำเภอก็จะขอสนับสนุนงบประมาณพัฒนื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียรู้ทางประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยว เช่นเดียวกันของบ้านเชียงต่อไป นายสกนธ์ฯกล่าว
ล่าสุดเมื่อวันที่11 พ.ค. 2565 นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น โดยมีนายดุสิต ทุมมากรณ์ ผอ.กลุ่มโบราณคดี กรมศิลปากร สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น นำเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เข้าขุดค้นพิสูจน์หาหลักฐานเพิ่มเติม หลังชาวบ้านขุดเจอโครงกระดูกมนุษย์ อาวุธโบราณ เครื่องประดับอีกจำนวนมากดังกล่าว
นายดุสิตฯกล่าวรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีว่า เบื้องต้นนี้ได้รายงานให้อธิบดีกรมศิลปากรแล้ว มีคำสั่งให้ทำแผนการขุดค้นเพื่อศึกษาลำดับการพัฒนาการ หลักการศึกษาจะอธิบายได้ชัดเจน เพราะพื้นที่บางส่วนถูกไถกลบ เพื่อนำเอาพื้นที่ไปทำประโยชน์ เพื่อจะได้หลักฐานที่อาจจะกระจายอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง หากจำเป็นต้องดำเนินการตามหลักวิชาการ ก็จะประสานงานกับพื้นที่ตามความจำเป็น
จากการสันนิษฐานเบื้องต้นจากหลักฐานที่เราพบได้โดยบังเอิญ คาดว่าอายุมาก แต่ต้องรอกระบวนการพิสูจน์ทางวิชาการ ไม่เคยพบร่องรอยโบราณวัตถุ หลังขุดค้นพบว่าชั้นวัฒนธรรมจะทับถมกันอยู่ราว 1 เมตร จากหลักฐานทางโบราณคดีที่พบ สันนิษฐานว่าที่นี่คือชุมชนโบราณ อยู่บนเนินดินใกล้กับลำห้วยบ่อ ลำน้ำสาขาของลำห้วยหลวง ที่จะไหลไปบรรจบแม่น้ำโขง และยังอยู่ใกล้กับ “บ่อเกลือโบราณ” เป็นพื้นที่เหมาะจะปักหลักเป็นชุมชน