วัคซีนต้านโควิด19 ปัจจุบันมีหลายสูตรที่สามารถฉีดได้ โดยในเบื้องต้นต้องฉีดเข็มที่ 1 และ 2 ให้ครบตามมาตรฐาน
ส่วนเข็มกระตุ้นจะเป็นวัคซีนชนิดใดนั้น ขึ้นอยู่กับว่ามีการปูพื้นฐานการฉีดมากอย่างไร
น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
วัคซีนโควิดเข็มที่ 4 เพิ่มประสิทธิผลต่อยอดจากเข็มที่ 3 ขึ้นไปอีก 31-42%
มีคำถามว่าจำเป็นมากน้อยเพียงใดที่จะต้องฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่ 4 หรือวัคซีนโควิดกระตุ้นเข็มที่ 2
เพราะเป็นที่ทราบกันชัดเจนแล้วว่าวัคซีนโควิดเข็มที่ 3 มีความจำเป็นสำหรับการรับมือไวรัสโอมิครอน (Omicron)
โดยสามารถลดการติดเชื้อลงได้ 70% และลดอาการรุนแรงเสียชีวิตได้ 98%
ขณะนี้มีรายงานการศึกษาจากประเทศสวีเดน เพื่อหาประสิทธิผลหรือความ
สามารถของวัคซีนเข็มที่ 4 ว่าจะมีมากขึ้น หรือต่อยอดจากวัคซีนเข็มที่ 3 มากน้อยอย่างไร
โดยการศึกษานี้ทำในสองลักษณะ
แล้วดูสัดส่วนการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ เปรียบเทียบระหว่างคนที่ฉีด 4 เข็มและ 3 เข็ม โดยเก็บข้อมูลในช่วงมกราคมถึง 29 มีนาคม 2565 ปรากฎผลว่า
ในกลุ่มแรก มีผู้เสียชีวิต 330 คน และประสิทธิผลของเข็ม 4 สูงกว่าเข็มสาม 31%
ในกลุ่มที่สอง ที่มีอายุมากกว่า 80 ปี มีผู้เสียชีวิต 1025 คน โดยประสิทธิผลของการฉีดเข็ม 4 ดีกว่าการฉีดเข็ม 3 อยู่ 42%
จากรายงานการศึกษาดังกล่าว จึงพอจะสรุปได้ว่า
การฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 มีประโยชน์เพิ่มเติมต่อยอดจากเข็มที่ 3 ไปอีก 31-42% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ
ดังนั้นในกลุ่มเสี่ยง 608 ของประเทศไทย จึงมีประโยชน์ที่จะฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 แต่ควรจะฉีดเข็ม 4 ให้ห่างจากเข็ม 3 อย่างน้อย 4 เดือนขึ้นไป
เพื่อให้ได้ระดับภูมิคุ้มกันที่สูง เพราะถ้าฉีดใกล้กันเกินไป จะได้ภูมิคุ้มกันสูงไม่มากนัก