โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) คืออะไร ติดต่อทางไหน อาการเป็นอย่างไร มีวิธีป้องกันหรือไม่ เป็นคำถามที่กำลังได้รับความสนใจบนโลกออนไลน์ หลังจากที่หลายประเทศเริ่มมีผู้ป่วยเกิดขึ้น
น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
ข่าวดี !! ผู้สูงอายุที่ปลูกฝีป้องกันฝีดาษเมื่อกว่า 50 ปีก่อน ยังคงมีภูมิคุ้มกันในระดับสูง มีครึ่งอายุ(Half life)นานถึง 92 ปี ( Half life : ระยะเวลาที่ระดับภูมิคุ้มกันลดลงเหลือ 50% )
จากกรณีที่มีข่าวการระบาดของฝีดาษลิงใน 15 ประเทศทั่วโลก (นอกทวีปแอฟริกา)
และพบว่าวัคซีนหรือการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษในคน สามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้มากถึง 85% นั้น
โดยเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า โลกเราได้หยุดการปลูกฝีมานานกว่า 40-50 ปีแล้ว
เพราะวงการสาธารณสุขสามารถกำจัดโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษให้หมดสิ้นไปได้
ทำให้คนที่อายุน้อยกว่า 40-50 ปี ล้วนแต่ไม่มีภูมิคุ้มกันสำหรับไข้ทรพิษหรือฝีดาษ
แต่คำถามที่น่าสนใจก็คือ ผู้ที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเกือบทุกคนจะได้รับการปลูกฝีตอนเด็กมาแล้ว จะยังคงมีภูมิคุ้มกันที่ป้องกันฝีดาษในคนรวมทั้งฝีดาษในลิงได้มากน้อยเพียงใด
มีรายงานการศึกษาวิจัยถึงระดับภูมิคุ้มกันหลังจากฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษ ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ชั้นนำคือ New England Journal of Medicine พบข่าวดีว่า
ในการศึกษาติดตามอาสาสมัครจำนวน 45 ราย ซึ่งมีอายุเฉลี่ย 37 ปี
โดยติดตามนานเฉลี่ย 15.2 ปี และมีการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อดูระดับภูมิคุ้มกันเป็นระยะถึง 11 ครั้งนั้น
พบว่า เฉพาะในระดับภูมิคุ้มกันต่อฝีดาษหรือไข้ทรพิษ จะมีการลดลงช้ามาก
โดยจะมีครึ่งชีวิตนานถึง 92 ปี แยกเป็นในผู้ชาย 99 ปี และในผู้หญิง 85 ปี
ดังนั้นผู้ที่ฉีดวัคซีนเมื่อ 50 ปีก่อน ในขณะนี้ก็จะมีระดับภูมิคุ้มกันสูงเพียงพอที่จะสามารถป้องกันฝีดาษในลิงได้ นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้สูงอายุทั้งหลาย
ส่วนผู้ที่อายุน้อยกว่าปี 50 ปี แม้จะมีแผลเป็นที่ต้นแขนหรือสะโพก ก็ไม่ใช่การปลูกฝีป้องกันฝีดาษ
หากแต่เป็นการปลูกฝีหรือฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรค ซึ่งจะมีแผลเป็นเช่นกัน
โดยแผลเป็นของวัคซีนป้องกันวัณโรคจะค่อนข้างนูน
ส่วนแผลเป็นจากการปลูกฝีป้องกันฝีดาษจะค่อนข้างเรียบหรือเป็นหลุมลงไปเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม คงจะต้องติดตามการระบาดของฝีดาษในลิงว่า มีมากน้อยเพียงใด
และจำเป็นที่จะต้องมีการฉีดวัคซีนให้กับคนที่อายุน้อยกว่า 50 ปีหรือไม่อย่างไรต่อไป