นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่สภาองค์กรของ ผู้บริโภคได้จัดแถลงข่าว “ผักผลไม้ GMOs บุกไทย หน่วยงานรัฐใดต้องรับผิดชอบ หวั่นปนเปื้อนผลไม้พื้นถิ่น ผู้บริโภคเสี่ยง กระทบการส่งออกผลไม้” ซึ่งเรียกร้องให้ภาครัฐจัดการปัญหาลักลอบนำเข้า ผักผลไม้จีเอ็มโอ
โดยเฉพาะสับปะรดสีชมพูนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิ่มมาตรการกำกับดูแลตาม กฎหมาย โดยกำหนดให้อาหารที่ได้จากเทคนิคการดัดแปรพันธุกรรมหรือ GMO เป็นอาหารห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย
เว้นแต่ผ่านการประเมินความปลอดภัยตามเกณฑ์ที่กำหนด และแก้ไขให้อาหาร GMO ทุกชนิด ต้องแสดงฉลากตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องอาหารจากสิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรม
และประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องการแสดงฉลากครอบคลุมอาหารที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรม ขณะนี้ ประกาศฯ ทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว อยู่ระหว่างประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลใช้บังคับ ทางกฎหมายต่อไป
สับปะรด จัดเป็นอาหารทั่วไป ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 การนำเข้าซึ่งอาหาร เพื่อจำหน่ายต้องมีใบอนุญาตนำเข้า และผ่านการตรวจสอบของด่านอาหารและยา แต่สับปะรดสีชมพู เป็นสิ่งต้องห้ามตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 การนำเข้าจึงต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายดังกล่าว
อย. ร่วมกับกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เฝ้าระวังการนำเข้าสับปะรดสีชมพูอย่าง เข้มงวด และจากการตรวจสอบของทั้ง 2 หน่วยงาน ไม่พบข้อมูลการนำเข้าสับปะรดสีชมพู
แต่จากการที่ พบมีการจำหน่ายเชื่อว่าไม่ผ่านตามขั้นตอนของกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 หน่วยงานจะประสานกับกรมศุลกากรเพื่อเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำเข้า สับปะรดสีชมพูเข้ามาในประเทศต่อไป