ดร.สัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า จากการหารือกับผู้ประกอบการรถโดยสารของ สปป.ลาว ในการเปิดให้บริการเดินรถเส้นทางระหว่างประเทศไทย - สปป.ลาว ในวันที่ 15 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันที่จะเปิดเดินรถระหว่างประเทศ รวม 9 เส้นทาง จากทั้งหมด 13 เส้นทาง โดยเป็นการเปิดเดินรถฯ ร่วมกันทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ – ปากเซ , อุบลราชธานี – ปากเซ , นครพนม – ท่าแขก , มุกดาหาร-สะหวันนะเขต , สะพานไทย (เชียงของ) - สะพานลาว (บ่อแก้ว) รถ Shuttle Bus และเปิดเดินรถฯ เฉพาะรถไทย ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ – นครหลวงเวียงจันทน์ , เลย – หลวงพระบาง , หนองคาย – นครหลวงเวียงจันทน์ และอุดรธานี – นครหลวงเวียงจันทน์
สำหรับเส้นทางที่ยังไม่พร้อมเปิดให้บริการ 4 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางขอนแก่น - นครหลวงเวียงจันทน์ , อุดรธานี-หนองคาย-วังเวียง , เชียงใหม่-หลวงพระบาง , น่าน-หลวงพระบาง เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ผู้โดยสารน้อย รวมทั้งทาง สปป. ลาว มีปัญหาค่าเงินที่อ่อนตัว และราคาน้ำมันแพง ทำให้บริษัทคู่สัญญา ยังไม่พร้อมเดินรถ
ส่วนของเส้นทาง อุดรธานี – วังเวียง จะมีการสำรวจเส้นทางใหม่ ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาในการเดินรถ จากเดิมใช้เวลา 7 ชั่วโมง เหลือเพียง 4 ชั่วโมง ทั้งนี้การเปิดให้บริการเดินรถเส้นทางระหว่างประเทศอาจเปลี่ยนแปลงได้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1490 เรียก บขส. ตลอด 24 ชั่วโมง หรือจองตั๋ว บขส. ณ ช่องจำหน่ายตั๋วของ บขส. ทั่วประเทศ หรือผ่านทางออนไลน์ Application : E-ticket , Website บขส.
นอกจากนี้ บขส.ได้ประสานงานกับด่านตรวจคนเข้าเมืองในเรื่องมาตรการควบคุมการเดินทางผ่านแดนฯ โดยผู้ที่เดินทางกับรถโดยสารระหว่างประเทศจะต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย 2 เข็ม ผู้เดินทางที่ใช้หนังสือเดินทาง (Passport) ต้องลงทะเบียน Thailand Pass มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ส่วนผู้โดยสารไทยที่ใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว (Border Pass) ไม่ต้องลงทะเบียน Thailand Pass แต่ต้องมีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และชาวต่างประเทศทุกคน (ยกเว้นคนไทย) ที่เดินทางเข้าประเทศ สปป.ลาว จะต้องซื้อประกันสุขภาพคุ้มครองด้วย