น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
เด็กอายุ 5-11 ขวบ ฉีดวัคซีนสูตร Sinovac ตามด้วย Pfizer (SV-PZ) ได้ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงกว่าฉีด Pfizer 2 เข็ม (PZ-PZ) และควรฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ด้วย
จากการศึกษาของศาสตราจารย์แพทย์หญิงกุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
เป็นการศึกษาในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี ที่ฉีดวัคซีนเปรียบเทียบระหว่างสูตรที่หนึ่ง (SV-PZ)
เข็ม 1 ฉีด Sinovac
เข็ม 2 ฉีด Pfizer
ได้ภูมิคุ้มกันต่อไวรัสอู่ฮั่น 808 หน่วย
BA.1 ได้ 43 หน่วย
และ BA.2 ได้ 92 หน่วย
ในขณะที่สูตรที่สอง ฉีดวัคซีน Pfizer สองเข็ม (PZ-PZ)
ได้ภูมิคุ้มกัน 667 , 24 และ 32 หน่วยตามลำดับ
จะเห็นได้ว่า การฉีดวัคซีนสูตร SV-PZ ได้ระดับภูมิคุ้มกันต่อไวรัสทั้งสามสายพันธุ์สูงกว่าการฉีดวัคซีนสูตร PZ-PZ และยังมีข้อดีคือ จะได้ภูมิคุ้มกันขึ้นเร็วกว่า เนื่องจากสูตร SV-PZ ฉีดห่างกัน 4 สัปดาห์ ส่วนสูตร PZ-PZ ต้องฉีดห่างกัน 8 สัปดาห์ (เพื่อลดผลข้างเคียงเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ)
อย่างไรก็ตามทั้งสองสูตร ระดับภูมิคุ้มกันของวัคซีน 2 เข็ม รับมือ Omicron (โอมิครอน) ได้ไม่ค่อยดีนัก จึงมีคำแนะนำว่าควรฉีดเข็มที่ 3 ด้วย
ในการศึกษายังพบว่า การฉีดเข็มสองด้วย Pfizer ครึ่งโดสนั้น พบว่าภูมิคุ้มกันขึ้นได้ดีเช่นกัน แต่ต่ำกว่าฉีดเต็มโดสอยู่เล็กน้อย
กล่าวโดยสรุป
สำหรับประเทศไทย ขณะนี้มีเด็กอายุ 5-11 ปี จำนวน 5.15 ล้านคน ฉีดเข็มหนึ่งไปแล้ว 61.2% คือ 3.15 ล้านคน และฉีดเข็มสอง 39.3% หรือ 2.02 ล้านคน
และในต่างประเทศ ได้มีการรับรองการฉีดวัคซีนในเด็กอายุหกเดือนถึง 5 ขวบแล้ว คาดว่าจะเข้ามาสู่ประเทศไทยในเร็ววันนี้
ทั้งนี้ถ้าสามารถเร่งการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5-11 ปีให้ครบ 3 เข็มได้ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อที่โรงเรียน แล้วนำกลับมาติดเชื้อที่บ้าน เพื่อทำให้สถานการณ์โควิดของประเทศไทย เข้าสู่ภาวะขาลงที่สมบูรณ์ต่อไป