ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha)โดยมีข้อความว่า
ประสบการณ์หมอเองติด โอมิครอน BA.4/5
หมอเองติดไปแล้วตั้งแต่ 10 มิถุนายน
และเช่นเดียวกับอีกหลายคน ตั้งแต่ค้นเดือนมิถุนายน แม้ว่าหลายคนจะฉีดเข็มที่สี่หรือห้าหรือ หก ไปแล้ว
พิสูจน์ว่า วัคซีนกัน “การติด” โอมิครอนไม่ดี โดยเฉพาะสายย่อยนี้
แต่อานิสงส์ของการฉีดวัคซีน "สามเข็มโดยเข็มสุดท้ายเป็น mRNA” จะลดความเสี่ยงอาการหนักได้ แต่ถ้าอาการมากขึ้นอย่านิ่งนอนใจ
ถ้าฉีดเชื้อตายให้เริ่มนับใหม่ ถ้าฉีด AZ ต้องตามด้วย mRNA
และถ้าจะให้หลีกเลี่ยงผลข้างเคียงของวัคซีนให้ได้มากที่สุดควรต้องฉีด "ชั้นผิวหนัง”
สรุป บทเรียนจากเดือน มิย นี้จากตัวเอง และรอบข้างที่ติด
1.อย่าเชื่อ ATK ถ้ายังขีดเดียวและมีอาการไม่สบายให้รีบแยกตัว
เริ่มฟ้าทะลายโจร อย่ากินตามฉลาก ให้เทียบว่ายี่ห้อนั้นมี แอนโดรกราโฟไลท์ เท่าไหร่ ให้ทาน = 60 มก. เช้า กลางวัน เย็น 5วัน
ในเด็กทาน 10 มก. เช้า กลางวันเย็น 5 วันเช่นกัน
สังเกตุตนเอง ถ้าเริ่มแย่ลง เอาไม่อยู่ให้เรียกเพื่อน ส่ง รพ (ตลอดเดือน กค ถึง วันที่ 10 กค นี้ รพ มักเต็ม รอคิวเพียบ!!)
2.ฟาวิพิราเวียอาจได้ผลไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยได้ อย่าชะล่าใจ
ตามที่คณะของเราได้เคยรายงานไปแล้วว่าเริ่มดื้อมานานพอควรแล้ว
ทั้งนี้ แม้ว่ารักษาทันที ตั้งแต่วันแรก ใช้ยาถูกขนาด แต่รหัสพันธุกรรมตั้งแต่สมัยอัลฟา และ เดลต้า ผันแปรไปจากเดิมเยอะมากและเมื่อรักษาไปครบห้าวันกลับไม่ได้ผล
อาการปอดบวมมากขึ้นโดยมีรหัสพันธุกรรมเปลี่ยนแปลงไปอีกมากและต้องทำการเปลี่ยนยาใช้ ยาฉีด remdesivir
3.ห้ามชะล่าใจเด็ดขาด เมื่อไม่สบาย และคิดว่าอาการไม่หนัก ทั้งนี้คงจำกันได้ โควิดทำให้ออกซิเจนต่ำโดยไม่รู้ตัว (happy hypoxemia)
หมอเอง ต้องเดิน 6 นาทีความอิ่มตัวของออกซิเจนเริ่ม <96% และเหนื่อยล้ามาก จนต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษา ด้วยยาฉีด
เพราะชะล่าใจว่าไม่น่าตึด และทำงานได้มีแต่ fatique บ้าง จนอาการยกระดับขึ้นมากมาย
4.ติดสายย่อยทันสมัยนี้ไปแล้ว อย่าทะนงตัวว่า มีภูมิคุ้มกันทั้งสองแบบ คือจากวัคซีนที่เคยฉีดแล้วมีติดเชื้อตามธรรมชาติ
เพราะโอมิครอนสายย่อยนี้ วัคซีนที่เคยฉีด รวมทั้งที่เคยติดโควิดมาก่อน เมื่อเจอกับโอไมครอนสายทันสมัยนี้ ภูมิคุ้มกันจะไปต่อสู้กับสายเดิมตั้งแต่อู่ฮั่น อังกฤษ เดต้า ภูมิต่อโอมิครอน ขึ้นน้อยมาก จนถูกขนานนามว่า สามารถ ทำให้เกิด hybrid immune damp คือ "ภูมิเดี้ยงไปเลย"
5.“อาจ” สบายใจได้ประมาณ 2-3เดือน (ถ้าโชคดี) และเตรียมตัวติดใหม่ได้ คนที่ติด โอมิครอน BA 1/2 ไปหยกๆ อาจติด 4/5 ได้เลย ไม่ต้องรอ 2-3 เดือน
6.รายงานจากต่างประเทศจะว่าลองโควิดจากโอไมครอนน่าจะน้อยกว่าโควิดก่อนหน้า แต่ทั้งนี้ เป็นโอไมครอนสมัยแรก และสายย่อยใหม่นี้ ถ้าติดซ้ำซ้อนหลายครั้งจะเกิดอะไรขึ้น กับ ลองโควิด
7.ประมาณกันว่าภายในเดือนกันยายนตุลาคมนี้ โควิดน่าจะปรับเปลี่ยน ทั้งนี้เป็นโอไมครอนสายย่อยใหม่หรือเป็นสายใหม่ หรือเรียกง่ายๆแล้วกันว่า สายทันสมัยกว่า
สรุปว่า : ถ้าไม่ติดได้จะเป็นดี หรือถ้า “ซวย” ติดไปแล้ว หัวใจสำคัญ รักษาเร็วที่สุดให้หายเร็วที่สุดเพื่อกันลองโควิด
ข้อสังเกตุ:
ยาต้านไวรัส molnupiravir (โมลนูพิราเวียร์) ยังใช้กันได้ paxlovid (แพ็กซ์โลวิด) ในบางราย ระวัง rebound ดูหายแลัว ไวรัสปะทุใหม่ และติดคนอื่นต่อได้
ยาต้าน ในเดือน กรกฎาคมนี้ หลาย รพ ไม่ให้ เบิก เป็น ขายแล้ว molnupiravir ชุดละเป็นหมื่น
ข้อปลอบใจ:
เบื่อไหม เบื่อ แต่ชีวิต ต้องอยู่ให้ได้ ประเทศ ต้องเดินหน้าต่อ มีวินัยกันต่อก็ไม่เสียหาย