NT ประกาศโครงการเออรี่รีไทร์ ลดภาระค่าใช้จ่าย เช็คเงื่อนไขที่นี่

27 ก.ค. 2565 | 03:03 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.ค. 2565 | 10:15 น.

NT ประกาศโครงการเออรี่รีไทร์ เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่าย เเบ่งพนักงานออกเป็น 3 กลุ่ม เช็คเงื่อนไขการสมัคร เเละผลตอบเเทนที่นี่

จากกรณีที่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)  NT ได้รับอนุมัติ "โครงการร่วมใจจากองค์กร" ตามข้อตกลงที่บริษัทกำหนดปี 2565 (Mutual Separation Pan : MSP) จากคณะกรรมการบริษัทฯ  โดยโครงการนี้เป็นการเชิญชวนและเปิดโอกาสให้พนักงานแจ้ง ความประสงค์เข้าร่วมโครงการและร่วมด้วยช่วยกันลดภาระค่าใช้จ่ายขององค์กรในระยะยาว โครงการฯ ดังกล่าว 

โครงการฯ ภายในสัปดาห์ที่สองของเดือน สิงหาคม 2565 และ ปิดระบบในวันที่ 5 กันยายน 2565 โดยกำหนดวันพันสภาพการเป็นพนักงานในวันที่ 1 ตุลาคม 2565

NT เออรี่รีไทร์

โครงการฯ สำหรับปี 2565 มีเป้าหมายให้พนักงานที่สนใจจำนวน 3 กลุ่ม สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ดังนี้

กลุ่มที่ 1 มีปัญหาด้านสุขภาพ ไม่กำหนดอายุตัวและอายุงาน

  • เจ็บป่วยเป็นโรคใดโรคหนึ่งหรือหลายโรคใน 11 โรค
  • เจ็บป่วยเรื้อรังหรือเจ็บป่วยรุนแรงถึงขั้นสูญเสียอวัยวะบางส่วน หรือสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของอวัยวะบางส่วน ที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่

 

กลุ่มที่ 2 ผลประเมินการปฏิบัติงานระดับ "พอใช้" หรือ "ควรปรับปรุง" หรือ "เกรด 2" หรือ "เกรด 1" อย่างน้อย 1 ครั้งในรอบ 5 ปี (2560-2564) โดยไม่กำหนดอายุตัวและอายุงาน

 

กลุ่มที่ 3 กลุ่มพนักงานอายุตัว 48 ปี ขึ้นไป ไม่กำหนดอายุงาน

  • ปฏิบัติงานทางด้านสนับสนุน ได้แก่ งานอำนวยการ งานธุรการ งานรับส่งเอกสาร งานเลขานุการ งานขับรด งานประสานงาน งานตรวจสอบ งานบุคคล งานบัญชี/การเงิน งานพัสดุ งานบริหารทรัพย์สิน งานโยธาและขนส่ง งานบริการทั่วไป งานกฎหมายบริหารสัญญา งานยุทธศาสตร์ งานจัดการความเสี่ยง งานรัฐกิจสัมพันธ์ งานประชาสัมพันธ์
  • ปฏิบัติงานทางด้านช่าง
  •  ปฏิบัติงานทางด้านอื่น ๆ นอกเหนือจากกลุ่มที่ 3.1 และ กลุ่มที่ 3.2

 

การพิจารณาจะอยู่ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติและผลการพิจารณาของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง การคัดเลือกจะพิจารณาเรียงตามลำดับกลุ่ม และ เรียงตามวัน เวลา (วินาที) ที่สมัครผ่านระบบอินทราเน็ตเป็นเกณฑ์

 

ผลตอบแทนการเข้าร่วมโครงการจ

  • เงินค่าตอบแทนพิเศษ จำนวน 2 เท่าของจำนวนปีที่ทำงาน สูงสุดไม่เกิน 30 เท่าของเงินเดือน เดือนสุดท้าย ทั้งนี้ ต้องไม่เกินจำนวนอายุงานที่เหลือนับเป็นเดือน แล้วแต่จำานวนใดจำนวนหนึ่งที่ต่ำกว่า
  • เงินตอบแทนการทำงาน
  • อายุงานครบ 20 ปีขึ้นไป จ่ายเท่ากับเงินเดือนสุดท้าย 400 วัน
  • อายุงานครบ 15 ปีขึ้นไป แต่ไม่ครบ 20 ปี จ่ายเท่ากับเงินเดือนสุดท้าย 300 วัน
  • อายุงานครบ  5 ปีขึ้นไป แต่ไม่ครบ 15 ปี ายเท่ากับเงินเดือนสุดท้าย 180 วัน
  • เงินกองทุนบำเหน็จ หรือเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จ่ายตามหลักเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ เกี่ยวกับเงินกองทุนฯ ที่ถือปฏิบัติอยู่ปัจจุบัน
  • เงินโบนัสประจำปี จ่ายตามหลักเกณฑ์เที่ยวกับโบนัสของบริษัท (ถ้ามี)
  • เงินค่าวันหยุดพักผ่อนประจำปีที่เหลือ จ่ายตามจำนวนวันหยุดพักผ่อนที่เหลือ โดยให้ถือตามสภาพการจ้างเดิม
  • เงินเพื่อดูแลสุขภาพ 100,000 บาท
  • บริษัทรับภาระภาษีทอดแรกของเงินตอบแทนพิเศษตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 300,000 บาท หากกรณีเป็นผู้เกษียณอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปี 2566 ได้รับตามจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
  • บริษัทรับภาระภาษีทอดแรกของเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือเงินกองทุนบำเหน็จ ตามจำนวนเงินภาษี ที่คำนวณได้ ณ วันพันสภาพ ทั้งนี้ การคงเงินหรือขอรับเงินเป็นงวด กองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะไม่ได้รับประโยชน์ในข้อนี้

 

 เงินเดือนที่จะใช้เป็นฐานในการคำนวณผลตอบแทน จะใช้เงินเดือนประจำปี 2565 ที่มีการพิจารณา ตามผลการประเมินการปฏิบัติงานประจำปี 2564 ที่ใช้กรอบการขึ้นเงินเดือนที่ร้อยละ 6.5 แล้ว และหากผลการตรวจสอบงบการเงินประจำปี 2564 โดย สตง. ปรากฎว่ามีกำไร จะมีการตกเบิกผลตอบแทนส่วนเพิ่มย้อนหลังต่อไป

 

พนักงานกลุ่มเป้าหมายที่ไม่เข้าร่วมโครงการจะต้องเข้ารับการคัดเลือกเพื่อพัฒนาทักษะความสามารถใหม่ในการทำงาน (upskill & reskil) ตามที่บริษัทกำหนด เพื่อขยายขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่หรือเพื่อปฏิบัติงานในหน้าที่งานใหม่ ตามที่บริษัทมอบหมายให้สอดคล้องกับการปรับโครงสร้างองค์กรและการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน เพื่อทำงานในทักษะที่บริษัทต้องการในสายงานที่ขาดแคลนอัตรากำลัง และหากไม่สามารถปฏิบัติงานได้หรือผลการประเมินการปฏิบัติงานไม่ผ่านเกณฑ์ภายในระยะเวลาที่กำหนด จะพิจารณาดำเนินการตามแนวทางหรือระเบียบ/คำสั่งที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้นต่อไป การดำเนินโครงการในอนาคตหากมีจะขึ้นกับผลประกอบการของบริษัทและการพิจารณาของคณะกรรมการบริษัท ซึ่งอาจจะเปลี่ยนแปลงจาก ผลตอบแทนที่ให้ตามโครงการในปีนี้