สู้ฝุ่น PM 2.5 สาธารณสุข จัดทีมลงพื้นที่ดูแลกลุ่มเสี่ยง 2.5 ล้านคน
ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานหลายพื้นที่ "สมศักดิ์" กำชับดูแลกลุ่มเปราะบางใกล้ชิด จัดทีมลงพื้นที่ดูแลกลุ่มเสี่ยงแล้ว 2.5 ล้านราย มอบมุ้งสู้ฝุ่น 1.3 พันชุด ปชช.พอใจ 87%
25 มีนาคม 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ว่า ในช่วงนี้หลายจังหวัดมีค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานถึง 62 จังหวัด และมีค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 3 วันขึ้นไป ถึง 59 จังหวัด โดยมีการคาดการณ์คุณภาพอากาศช่วง 1-2 วันข้างหน้า ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่จึงได้กำชับกระทรวงสาธารณสุข ให้เฝ้าติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 อย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลกลุ่มเปราะบางอย่างเต็มที่
ส่วนในระยะที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ดำเนินการ คือ 1. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ จัดทีมปฏิบัติการทางการแพทย์ "ทีมพิเศษฉุกเฉินสุขภาพ" หรือทีม "SHERT : Special Health Emergency Response Team" ลงพื้นที่ดูแลกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง ทั้งระดับจังหวัดและระดับอำเภอ 954 ทีม ทั้งสิ้น 2,547,240 ราย
2. จัดทำระบบนัดหมายผ่านแอพลิเคชันหมอพร้อม เปิดระบบนัดหมายในโรงพยาบาล จำนวน 117 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการ 15 แห่ง เป้าหมายในโรงพยาบาล 132 แห่ง ทั่วประเทศ
3. คลินิกมลพิษและเวชกรรมสิ่งแวดล้อมโดยเปิดให้บริการแล้วกว่า 67 จังหวัด จำนวน 348 แห่งทั้งออนไลน์และออนไซต์ มีผู้เข้ารับบริการ 3,083 ราย เป็นผู้มีโรคประจำตัว 781 ราย
4. สำรองหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นที่หน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่พร้อมสนับสนุนให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง โดยเป็นหน้ากากอนามัยชนิดใช้แล้วทิ้ง จำนวน 6,210,311 ชิ้น และหน้ากาก N95 จำนวน 465,718 ชิ้น ซึ่งแจกประชาชนไปแล้วกว่า 3 ล้านชิ้น
5.ห้องปลอดฝุ่นครอบคลุมทั่วประเทศ จำนวนมากกว่า 17,964 ห้อง ใน 74 จังหวัด รองรับกลุ่มเสี่ยง 1.9 ล้านราย โดยมีผู้รับบริการแล้วถึง 361,880 ราย จากการสำรวจพบว่าเด็กที่อยู่ในห้องปลอดฝุ่นมีอาการที่เกี่ยวกับการสัมผัสฝุ่นละอองในระดับน้อยมาก หรือ แทบไม่มี
6.สนับสนุนมุ้งสู้ฝุ่น จำนวน 1,377 ชุด ใน 35 จังหวัดเสี่ยงสูง โดยมีประสิทธิภาพการลด PM 2.5 ระหว่าง 40% - 80% และจากการประเมินผลจากผู้ใช้งาน พบว่า ร้อยละ 87 มีความพึงพอใจต่อการใช้งานมุ้งสู้ฝุ่นเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ การดำเนินการของกระทรวงสาธารณสุขในการดูแลภัยสุขภาพของพี่น้องประชาชนก็ได้บูรณาการทุกหน่วยงานดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อลดผลกระทบด้านสุขภาพให้ได้มากที่สุดจึงเน้นย้ำให้กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการตามมาตรการดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จะดีขึ้น จนไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน