หมอแนะ ใช้ “ยาสีฟันฟลูออไรด์” กับเด็กอย่างไร ให้ปลอดภัย

เด็กๆ มักจะเผชิญกับ “โรคฟันผุ” ซึ่งเกิดจากแบคทีเรียในช่องปากที่สร้างกรดทำลายโครงสร้างของฟัน  ซึ่งหากไม่ได้รับการป้องกัน อาจส่งผลต่อสุขภาพฟันในระยะยาว “ฟลูออไรด์” จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่สามารถเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับฟัน และป้องกันการละลายตัวของแร่ธาตุที่ผิวฟัน การใช้ “ยาสีฟันฟลูออไรด์” อย่างถูกต้อง จึงมีประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุให้กับเด็กๆ ได้

ทันตแพทย์หญิง สลิลทิพย์ ภาคย์ธวัช ทันตแพทย์เฉพาะทาง ทันตกรรมสำหรับเด็ก ศูนย์ทันตกรรม โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC) กล่าวว่า การใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์ในเด็ก เริ่มตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น (อายุประมาณ 6 เดือน) รูปแบบยาสีฟันฟลูออไรด์ แนะนำให้ใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์ที่ความเข้มข้น 1,000, 1,500 ส่วนในล้านส่วน (ppm) ตามความเสี่ยงของการเกิดฟันผุ

โดยปริมาณของยาสีฟันที่ใช้มีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย ดังนี้

• เด็กอายุน้อยกว่า 6 ปี ใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์ 1,000 ppm โดยแบ่งตามอายุ อายุน้อยกว่า 3 ปี ปริมาณที่ใช้แตะขนแปรงแค่พอเปียก หรือเท่าเมล็ดข้าวสาร และ อายุ 3 - 6 ปี ใช้ปริมาณเท่ากับความกว้างของแปรงสีฟันเด็ก หรือเท่าเมล็ดข้าวโพด

• เด็กอายุ 6 ปี ขึ้นไปและผู้ใหญ่ ให้ยาสีฟันฟลูออไรด์ 1,500 ppm
• เด็กอายุน้อยกว่า 6 ปี ที่มีความเสี่ยงฟันผุสูง (ซึ่งประเมินโดยทันตแพทย์) อาจได้รับคำแนะนำให้ใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์ 1,500 ppm โดยใช้ภายใต้คำแนะนำและการดูแลของทันตแพทย์
• การใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์อย่างถูกต้องเหมาะสมตามที่แนะนำ ผู้ใช้จะได้รับประโยชน์สูงสุด และปลอดภัยจากผลข้างเคียง

เด็กๆ มีความเสี่ยงการเกิดฟันผุสูงหรือต่ำ ?

การตรวจประเมินสุขภาพช่องปากโดยทันตแพทย์ ดังนั้น ผู้ปกครองควรพาลูกมาตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอทุก 3 - 6 เดือน โดยขึ้นกับความเสี่ยงของการเกิดฟันผุในเด็กแต่ละคน เพื่อทันตแพทย์จะได้ทำการรักษาและป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เด็กๆ ควรพบทันตแพทย์ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ ?

ผู้ปกครองควรพาลูกมาพบกับทันตแพทย์ตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น เพื่อรับคำแนะนำการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี เช่น วิธีการดูแลสุขภาพช่องปาก การแปรงฟัน การปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อให้ลูกได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี และลดความเสี่ยงของการเกิดฟันผุ

คำแนะนำการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันเด็ก ?

ผู้ปกครองควรทำความสะอาดฟันให้ลูกตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น, หลีกเลี่ยงการบริโภคขนมหวาน ขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม, เลิกขวดนมตั้งแต่อายุ 1 ปี, แปรงฟันทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน, ใช้ไหมขัดฟันบริเวณที่มีซอกฟันชิด, ตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอทุก 3 - 6 เดือน (ตามความเสี่ยงของการเกิดฟันผุ)

ขอบคุณข้อมูลจาก : สมาคมทันตกรรมเด็กแห่งประเทศไทย