นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงวันหยุดยาว ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ นอกจากต้องระมัดระวังในเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนนและการกินอาหารที่สะอาดปลอดภัยแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษเพื่อสุขอนามัยที่ดีคือการใช้บริการห้องส้วมสาธารณะตามสถานที่ต่าง ๆ อาทิ สถานีขนส่ง ปั๊มน้ำมัน และร้านอาหาร เป็นต้น
ซึ่งต้องขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการในสถานที่ต่างๆ ร่วมกันล้างส้วมสาธารณะให้สะอาดเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเน้นการทำความสะอาดแหล่งปนเปื้อนเชื้อโรคที่ต้องสัมผัสร่วมกันบ่อย ๆ ได้แก่ พื้นห้องส้วม บริเวณที่รองนั่งโถส้วม ที่จับสายฉีดชำระ ที่กดโถส้วม ก๊อกน้ำอ่างล้างมือ ลูกบิดหรือกลอนประตู และบริเวณราวจับสำหรับผู้ที่ใช้บริการส้วมสาธารณะควรเช็ดทำความสะอาดก่อนนั่ง ไม่ทิ้งวัสดุอื่นใดนอกจากกระดาษชำระลงในโถส้วมเพราะวัสดุอาจไปอุดตันท่อให้ปิดฝาโถส้วมก่อนกดชักโครก เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อโรคลดการเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 และล้างมือด้วยสบู่และน้ำทุกครั้งหลังการใช้ส้วม
ทั้งนี้ กรมอนามัยได้สนับสนุนให้สถานประกอบการทุกแห่งให้ความสำคัญต่อการพัฒนาส้วมสาธารณะให้ได้มาตรฐาน (HAS) เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งแพร่กระจายของเชื้อโรคและโรคติดต่อต่างๆโดยต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ดังนี้ 1) สะอาด (Health) ส้วมจะต้องได้รับการดำเนินการให้ถูกหลักสุขาภิบาล โดยห้องส้วมและสุขภัณฑ์ทั้งหมดจะต้องสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็น มีวัสดุอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกไว้บริการ เช่น น้ำสะอาด สบู่ล้างมือ กระดาษชำระเพียงพอ การเก็บกักหรือบำบัดสิ่งปฏิกูลถูกต้องและมีสภาพแวดล้อมสวยงาม
2) เพียงพอ (Accessibility) มีส้วมบริการให้เพียงพอแก่ความต้องการของผู้ใช้รวมถึงผู้พิการ ผู้สูงวัยหญิงมีครรภ์ และส้วมต้องพร้อมใช้งานตลอดเวลาที่เปิดให้บริการ และ3)ปลอดภัย (Safety) ผู้ใช้บริการจะต้องปลอดภัยขณะใช้ส้วม เช่น สถานที่ตั้งส้วมไม่เปลี่ยว ห้องส้วมแยกเพศชาย–หญิง มีการจัดเตรียมถังขยะพร้อมฝาปิดให้มิดชิดไว้บริการ เพื่อสุขลักษณะที่ดี ป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของสัตว์และแมลงพาหะนำโรค” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว