อัพเดทสถานการณ์โรคฝีดาษวานรหรือฝีดาษลิงในประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 65 ไทยพบผู้ป่วยยืนยันโรคฝีดาษวานรรายที่ 3 เป็นชายชาวเยอรมัน อายุ 25 ปี เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 65 เข้ามายังจังหวัดภูเก็ต เพื่อท่องเที่ยว
ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โพสต์เผยแพร่ Q&A คลายข้อสงสัยไปกับ สปสช.
Q : เราติดเชื้อฝีดาษวานรได้อย่างไรบ้าง?
A : ฝีดาษวานรไม่ได้แพร่จากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่งง่ายเท่าไหร่เพราะคนที่รับเชื้อโรคจะต้องสัมผัสกับคนที่ติดเชื้อโดยตรง โดยเฉพาะการสัมผัสกับ
- แผล แผลตกสะเก็ดและของเหลวจากร่างกาย
- น้ำลาย ละอองทางเดินหายใจที่ได้รับจากการอยู่ใกล้ชิดกันเป็นเวลานาน
- สิ่งของ เช่น ผ้าเช็ดตัวและเครื่องนอนที่ยังไม่ได้ซักทำความสะอาด
- การสัมผัสกัน ระหว่างมีเพศสัมพันธ์
มาตรการป้องกันโรคโควิด 19 ยังสามารถใช้ได้กับโรคฝีดาษวานร ดังนี้
1. ล้างมือบ่อยๆ
2. เว้นระยะห่าง
3. เลี่ยงมีเพศสมัพันธ์กับคนที่ไม่รู้จัก
4. ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
5. เลี่ยงใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีตุ่มหนอง
6. กินอาหารปรุงสุก
7. สงสัยว่ามีอาการป่วยเป็นโรคฝีดาษวานร ควรีบพบแพทย์ทันที
ขอบคุณข้อมูลจากกรมควบคุมโรค
สำหรับผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท หรือ สิทธิหลักประกันสุขภาพ สามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการหรือสถานพยาบาลประจำตามสิทธิ หรือกรณีมีความจำเป็นสามารถเข้ารับบริการที่สถานพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ทุกแห่ง เช่นโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ กทม. และคลินิกเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ หรือสถานพยาบาลตามสิทธิที่ท่านไปรักษาเป็นประจำ
ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมการใช้สิทธิบัตรทอง สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
ที่มา : เพจเฟซบุ๊กสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ