เตือน! โอมิครอนเสี่ยงต่อปัญหา "ลองโควิด" ด้านสมอง อาการเป็นอย่างไร เช็คเลย

18 ส.ค. 2565 | 05:10 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ส.ค. 2565 | 12:10 น.

เตือน! โอมิครอนเสี่ยงต่อปัญหา "ลองโควิด" ด้านสมอง อาการเป็นอย่างไร เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ หมอธีระเผยผลวิจัย Taquet M และคณะ จากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด สหราชอาณาจักร

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความ

 

อัพเดตโควิด-19 กับโรคทางสมอง/ระบบประสาท และจิตเวช

 

ล่าสุด Taquet M และคณะ จากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด สหราชอาณาจักร ได้เผยแพร่ผลการศึกษาในวารสารการแพทย์ The Lancet Psychiatry 

 

ถือเป็นงานวิจัยที่ศึกษาย้อนหลัง 2 ปี ในกลุ่มประชากรขนาดใหญ่มากถึงเกือบ 1.3 ล้านคนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทั้งยุโรป เอเชีย และอเมริกา ครอบคลุมตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงอายุ

 

โดยทำการประเมินความเสี่ยงของปัญหา Long COVID (ลองโควิด) ที่ส่งผลให้เกิดโรคทางสมอง ระบบประสาท และจิตเวช 
 

สาระสำคัญคือ

 

หนึ่ง Omicron ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อปัญหา Long COVID ด้านสมอง ระบบประสาท และจิตเวช ไม่ต่างจากเดลต้า หรือสายพันธุ์ก่อนหน้า

 

สอง ผู้ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 มีความเสี่ยงต่อภาวะผิดปกติด้านอารมณ์ เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล ฯลฯ แต่ความเสี่ยงจะค่อยๆ ลดลงสู่ปกติภายในเวลา 2-3 เดือน

 

โอมิครอนเสี่ยงต่อปัญหา "ลองโควิด" ด้านสมอง

 

สาม ผู้ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 จะมีความเสี่ยงต่อปัญหาทางสมองและระบบประสาท เช่น ปัญหาด้านความคิดความจำ สมาธิ สมองเสื่อม โรคจิต โรคลมชัก ฯลฯ มากกว่าปกติยาวนานจนถึง 2 ปีที่ทำการศึกษา (ซึ่งอาจนานกว่า 2 ปี หากมีการศึกษาต่อในอนาคต)

 

ผลการศึกษานี้เป็นที่สนใจของทั่วโลก เพราะชี้ให้เห็นว่าปัญหา Long COVID นั้นเป็นเรื่องสำคัญ และภาวะผิดปกติต่อสมอง ระบบประสาท รวมถึงจิตใจและอารมณ์นั้นเกิดขึ้นได้หลากหลาย โดยความเสี่ยงต่อหลายโรคนั้นคงอยู่ยาวนานถึง 2 ปี หรืออาจมากกว่านั้น

 

 

ที่สำคัญคือการติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron ก็มีความเสี่ยงต่อภาวะต่างๆ ดังกล่าว ไม่ได้น้อยกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้าเลย

 

นอกจากระบบสาธารณสุขของแต่ละประเทศต้องเตรียมรับมือ จัดระบบบริการที่จะสามารถให้การตรวจคัดกรอง ดูแลรักษา และฟื้นฟูสภาพแล้ว แต่ละประเทศยังจำเป็นต้องพิจารณาระบบสนับสนุนทางสังคมเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ป่วยต่างๆ ที่ประสบปัญหาข้างต้น ให้สามารถดำรงชีวิตประจำวันไปได้ด้วย

 

สำหรับประชาชนที่เคยติดเชื้อมาก่อน ก็ควรมีความรู้เท่าทัน หมั่นประเมินสุขภาพของตนเอง ทั้งเรื่องความคิดความจำ สมาธิ อารมณ์ หากผิดปกติไปจากอดีต ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและให้การดูแลรักษาอย่างเหมาะสมและทันท่วงที

 

การป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด

 

ใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง เป็นหัวใจสำคัญ