เครือข่ายกัญชาบุกทำเนียบ-พรรคก้าวไกล จี้ทบทวนกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด

10 มิ.ย. 2566 | 12:09 น.
อัปเดตล่าสุด :10 มิ.ย. 2566 | 12:10 น.

2 เครือข่ายกัญชาไทยลุกฮือ เขียนอนาคตกัญชาไทยพร้อมภาคี รวมพลตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล ยื่นหนังสือแสดงเจตนารมณ์ 'ไม่เอากัญชากลับสู่ยาเสพติด' ส่วนสมาพันธ์กัญชาเพื่อประชาชนเข้ายื่นหนังสือ-หารือเดินหน้านโยบายกัญชาร่วมกับพรรคก้าวไกล

 

หลังจากพรรคก้าวไกลว่าที่ รัฐบาลชุดใหม่ ประกาศนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ส่งผลให้ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง และในวันที่ 9 มิถุนายน 2566 ซึ่งเป็นวันครบรอบ1 ปี ปลดล็อคกัญชาเสรี  2 เครือข่ายกัญชาไทยที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการผลักดันและสนับสนุนกัญชาเสรีตั้งแต่เริ่ม ออกมาเคลื่อนไหว 

2 เครือข่ายกัญชาบุกทำเนียบ-พรรคก้าวไกล จี้ทบทวนกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด

โดย กลุ่ม"เขียนอนาคตกัญชาไทย" นัดระดมพลทำกิจกรรมวันกัญชาไทย "9 มิถุนา วันกัญชาไทย"  ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่เวลา 10:00-16:00น. เพื่อร่วมหารือและยื่นหนังสือไม่เอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดกัญ ทั้งนี้ได้เชิญนักการเมืองโดยเฉพาะพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ เข้าร่วมหารือในหัวข้อ “กัญชาควรควบคุมด้วยกฎหมายปกติหรือกฎหมายยาเสพติด”

จากนั้นได้ร่วมลงนามในหนังสือแสดงเจตนารมณ์ 'ไม่เอากัญชากลับสู่ยาเสพติด'และชมผลิตภัณฑ์ยากัญชาพร้อมทั้งกิจกรรมทบทวนประวัติศาสตร์การขับเคลื่อนจากอดีตถึงปัจจุบัน ก่อนที่ในช่วงบ่ายจะเข้ายื่นหนังสือแสดงเจตนารมณ์ถึงรัฐบาลและระดมความเห็นกัญชาควรควบคุมด้วยกฎหมายยาเสพติดหรือกฎหมายพระราชบัญญัติ และแถลงการณ์เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยและภาคีปิดท้ายกิจกรรม

ยื่นหนังสือแสดงเจตนารมณ์ถึงรัฐบาล

“เป้าหมายสำคัญคือ อยากชวนทุกฝ่ายมาเริ่มต้นขั้นตอนการกำหนดนโยบายกัญชาที่ถูกต้องตามข้อเท็จจริง เพราะที่ผ่านมาถูกฝ่ายการเมืองปั่นเรื่องกัญชาจนห่างไกลจากข้อเท็จจริง และพรรคการเมืองก็กำหนดนโยบายกัญชาจากการอยากเอาชนะกันทางการเมือง เรื่องนี้ส่งผลร้ายต่อความมั่นคงทางยาของประชาชน จากการกำหนดนโยบายที่ผิดพลาด

 

 

อยากชวนเป็นพิเศษสำหรับพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ หวังว่าคงมีความกล้าหาญในการมาระดมความคิดเห็นว่า กัญชาควรกำหนดด้วยเครื่องมือใด เครื่องมือแบบกฎหมายยาเสพติดหรือกฎหมาย พ.ร.บ. ฝากเป็นพิเศษสำหรับพรรคก้าวไกล ช่วยนำผลการศึกษาเปรียบเทียบระหว่าง สุรา บุหรี่ และ กัญชามาแสดงในวันงานด้วย เพื่อเป็นข้อมูลตั้งต้นที่เราจะคุยกัน อันนี้เครือข่ายทำหนังสือไปยังพรรคหลายวันแล้วเพื่อขอให้แสดงข้อมูลต่อสาธารณะ

เชิญชวนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา-กรมแพทย์แผนไทย-กรมวิชาการเกษตร-กรมศุลกากร-กรมคุ้มครองเด็กและเยาวชน - ปปส. เป็นต้น มาร่วมกันกำหนดอนาคตกัญชาไทย สำคัญสุดเชิญเครือข่ายผู้ทำกัญชาทั่วประเทศที่สามารถเดินทางมาได้และประชาชนผู้สนใจทุกท่าน โดยเฉพาะองค์กรที่ทำงานด้านเด็กและเยาวชนอยากเชิญชวนเป็นพิเศษ

อยากเชิญชวนทุกฝ่ายมาเริ่มที่ข้อเท็จจริงของกัญชาอย่างรอบด้าน โดยเมื่อเราเข้าถึงข้อมูลอย่างรอบด้านเราสามารถพิจารณาต่อได้ว่า เราจะใช้เครื่องมือใดในการกำหนดอนาคตกัญชาที่สามารถนำข้อดีของกัญชามาใช้และใช้กฎหมายนั้นควบคุมข้อเสีย กัญชาต้องควบคุมเชิงระบบและกฎหมายใดที่เอื้อให้เราควบคุมกัญชาเชิงระบบ ระหว่าง

1.กฎหมายยาเสพติดซึ่งมีเป้าหมายการจำกัดเสรีภาพ

2.กฎหมาย พ.ร.บ.ที่มีส่วนร่วมของประชาชนในการออกแบบและเห็นชอบโดยตัวแทนของประชาชนคือสภาผู้แทนราษฎร

กฎหมายชนิดใดที่ควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพในระบอบประชาธิปไตย เป็นประโยชน์กับประชาชนสอดคล้องกับบริบทที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน "มาร่วมกันทำให้กฎหมายกัญชาสง่างามตามข้อเท็จจริง ไม่หลงอยู่ท่ามกลางการเอาชนะทางการเมือง”

หารือกับตัวแทนพรรคก้าวไกล

ขณะเดียวกัน สมาพันธ์กัญชาเพื่อประชาชน ได้เดินทางไปที่ที่ทำการพรรคก้าวไกล ณ อาคารอนาคตใหม่ ซอย รามคำแหง 42เพื่อยื่นหนังสือและร่วมหารือการดำเนินนโยบายกัญชาร่วมกับพรรคก้าวไกล โดยตัวแทนพรรคก้าวไกลได้รับฟังข้อเสนอหลายประเด็นเพื่อไปพูดคุยต่อกับกรรมการพรรคดังนี้

1. ทบทวนการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด

2. สนับสนุนให้มีการปรับปรุงบังคับใช้กฏหมายอย่างจริงจัง

3. การออกพรก.โดยนำเนื้อหาจาก พรบ.กัญชาในสภามาปรับปรุงใช้ เพื่อให้เกิดสภาพบังคับชั่วคราวคลายความกังวลของสังคมระหว่างทำ พรบ.กัญชา

4. การให้ความชัดเจนเรื่องกรอบการใช้กัญชาเชิงสันทนาการของพรรค

หลังจากเสร็จสิ้นการยื่นหนังสือและหารือกับพรรคก้าวไกลแล้ว  สมาพันธ์กัญชาเพื่อประชาชนได้เดินทางเข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มเขียนอนาคตกัญชาไทย ณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล ประตู 1

และจะจัดงานอ๊าฟเตอร์มีตติ้งเพื่อพูดคุยสรุปเนื้อหาและกิจกรรมตลอดวันนี้ ณ ร้าน Highland Café ในช่วงเย็นอีกด้วย